วันอังคารที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2556

นายขาว-นายดำ คู่กัดฟัดไม่เลิก / Mr.White Mr. Black (2008)



นายขาว-นายดำ คู่กัดฟัดไม่เลิก / Mr.White  Mr. Black (2008)
บทภาพยนตร์... Nishikant Kamat / ดนตรีประกอบ... Tausif Akhtar-Jatin Pandit-Shamir Tandon / ถ่ายภาพ... Thomas A. Xavier / ลำดับภาพ...Steven H. Bernard / ผู้อำนวยการสร้าง... Bipin H. Shah / ผู้กำกับภาพยนตร์... Deepak S. Shivdasani
ดารานำแสดง... Sunil Shetty, Arshad Warsi, Sadashiv Amrapurkar-Atul Kale-Mahima Mehta-กมลา กำภู  ณ อยุธยา

                         ชายสองคน โกปี (Suniel  Shetty) และ คิสเชน (Arshad  Warsi) ฉายานายขาวและนายดำตามลำดับ โกปิ ไร้เดียงสาและเป็นคนง่ายๆถูก  คิสเชนตามตัวมาเพื่อมอบที่ดินและเติมเต็มความปรารถนาสุดท้ายของพ่อเขาที่ตาย    ส่วน คิสเชนเป็นคนที่หลอกลวงคนอื่นโดยมี บาบูเป็นคนช่วย เขาซึ่งก็อ้างว่าเป็นฝาแฝดที่เลวของเขา  คิสเชนมีแผนจะไม่ยอมยกที่ดินให้ โกปิ   จึงเดินทางเพื่อไปหาโกปิ ซึ่งโกปิมี เคจีลูกสาวของเจ้าของรีสอร์ทคอยช่วยเหลือเขาจึงไม่กลัวอะไร  แล้วสิ่งที่เขาค้นพบก็คือแก๊งสาวๆที่ปล้นเพชรมูลค่ามหาศาล และหนึ่งในสามคือ ดีบย่าน้องสาวของ คิสเชนนั่นเอง


                         ภาพยนตร์แนวตลกร้าย เสนอเรื่องราวของคนต่างขั้ว  ดีชั่วที่ต้องมาต่อสู้กัน  ซึ่งผู้สร้างใช้คำว่าขาว-ดำมาเป็นชื่อตัวละครเพื่อแยกชั่วดี ให้เห็นกันชัดๆ  แต่เมื่อเป็นภาพยนตร์ตลกไอ้เรื่องดีชั่วจึงไม่ใช่ประเด็นนัก  เรียกว่าสร้างเอาขำ เอาฮา  ไม่จริงจัง

                                      Sunil Shetty-Arshad Warsi

                         ภาพยนตร์เรื่องนี้มีดารา นางงาม  นางแบบ ของไทย คุณ หนิง  กมลา  กำภู  ณ อยุธยา มาร่วมแสดงเป็นหนึ่งในสามของแก๊งโจรสาวที่ปล้นเพชร   ซึ่งฉากปล้นเพชรของสาวโจรสาวในภาพยนตร์ดูเท่ห์  ลีลาท่าทางที่เน้นสโลโมชั่น  ดูเร้าใจ  แต่รถที่ขนเพชรนั้น ขับมาตั้งไกลแต่พอเปิดออกมา  ทำไม เพชรที่อยู่ในเซฟถูกเปิดโชว์และวางอยู่บนผผ้ากำมะหยี่อย่างเป็นระเบียบเหมือนติดกาวตราช้างขยับเขยื้อนไม่ได้  ทั้งๆที่น่าจะหกระเนระนาด



                                   คุณหนิง กมลา-ร่วมแสดง

                         ดำ-ขาว มันเป็นสีที่เขาใช้เปรียบเทียบสิ่งดีกับไม่ดี สีขาวคือสะอาด บริสุทธิ์สีดำคือสกปรก เลว ไม่ดี  ทุกข์    ก็ไม่รู้ว่าใครกำหนดไว้...คุณรู้หรือไม่ว่า  คุณทำให้สีดำมีปมด้อยไปจนตาย ฮึๆๆ...สีทนไม่ได้

วิญญาณ / VINYAN (2008)



วิญญาณ / VINYAN (2008)
บทภาพยนตร์...Oliver Blackburn&David Greig / ดนตรีประกอบ...Francois Eudes / ถ่ายภาพ...Benoit Debie / ลำดับภาพ...Colin Monie / ออกแบบงานสร้าง...อริน พินิจวรารักษ์ / ผู้อำนวยการสร้าง...Micheal Jentile / ผู้กำกับภาพยนตร์... Fabrice Du Welz
ดารานำแสดง...Emmanuelle Beart-Rufus Sewell-เพชร โสถานุเคราะห์-โจอี้ บอย-สายเชียร์ วงศ์วิโรจน์-อัมพร ปานกระโทก-ธีระวัฒน์ มูลวิไล

          ฌาน(Emmanuelle Beart) และ พอล เบลห์เมอร์(Rufus Sewell)ยังไม่อาจทำใจให้ยอมรับการ สูญเสียลูกชายไปในเหตุการณ์สึนามิคลื่นยักษ์ถล่มประเทศไทยเมื่อปีค.ศ.2005ได้  พวกเขาเลือกที่จะใช้ชีวิตอยู่ในจังหวัดภูเก็ตต่อไป การที่ไม่มีใครพบศพของลูกชายพวกเขาทำให้ฌานหลอกตัวเองว่าลูกของเธอยังมีชีวิตอยู่แต่ถูกพวกค้ามนุษย์ลักพาตัวไป ซึ่งพอลไม่คิดเช่นนั้นแต่เขาก็ไม่อาจทำลายความหวังสุดท้ายของภรรยาได้ลงคอ   พวกเขาติดต่อบูมซอง(โจอี้ บอย) ให้ล่องเรือพาพวกเขาเดินทางไปยังป่าชายแดนไทย-พม่าที่ชุกชุมไปด้วยโจรร้าย จนกระทั่งสองสามีภรรยาได้มาพบกับทักษิณ เกา(เพชร โอสถานุเคราะห์)บนเกาะแห่งหนึ่งซึ่งจะพาพวกเขาไปสู่ความลี้ลับ น่าสะพรึงกลัวจนลืมไม่ลง


          ภาพยนตร์แนวสยองขวัญผสมดราม่า ที่นำเสนอสภาพจิตใจของผู้เป็นพ่อเป็นแม่หลังจากที่ต้องสูญเสียลูกไปในเหตุการณ์คลื่นยักษ์ถล่มประเทศไทยเมื่อปลายเดือนธันวาคม พ.ศ.2548 ซึ่งไม่มีเงินทองหรือสิ่งใดในโลกจะมาฟื้นฟูเยียวยารักษาสภาพจิตใจที่แหลกสลายของพวกเขาได้  และภาพยนตร์ยังเลยเถิดด้วยการเปิดเผยว่ามีพวกเด็กๆที่รอดตายเป็นกำพร้าพ่อแม่ไปรวมตัวกันอยู่บนเกาะร้างเกาะหนึ่ง  พวกเขาดำรงชีวิตอยู่เหมือนสัตว์ป่า บางคนเรียกพวกเด็กเหล่านี้ว่าเปรตเดินดินประมาณนั้น  ผู้สร้างนำ Emmanuelle Beart กับ Rufus Sewell มาร่วมกันนำพาผู้ชมไปสู่ความสยดสยอง


Rufus Sewell กับ Emmanuelle Beart ดารานำแสดง

               Emmanuelle Beart แสดงออกได้ดีในบทคุณแม่ที่ใจแตกสลาย ที่พยายามสร้างความหวังว่าลูกยังไม่ตายเอาไว้ปลอบใจตัวเอง ส่วน Rufus Sewell รับบทสามีที่อบอุ่น พึ่งพาได้ทุกเมื่อ และดูแกร่งพอที่จะลุกขึ้นปกป้องตัวเองและภรรยาได้ในยามคับขัน โดยเฉพาะการมาอยู่ในต่างถิ่นอย่างประเทศไทย

วิวทิวทัศน์บนเกาะและท้องทะเลของจังหวัดภูเก็ต ประเทศไทย

           ภาพยนตร์เรื่องนี้ถ่ายทำที่จังหวัดภูเก็ตโดยรอบ ทั้งเรื่อง ผู้ชมทั่วไปจะได้เห็นวิวทิวทัศน์สวยงามของภูเก็ต ที่ใช้เป็นโลเกชั่นดำเนินเรื่องมากมายหลากหลายมุม  มีดาราไทยร่วมแสดงในบทร้ายๆ คือนักร้องเพลงแร็บยกมือขึ้นโจอี้ บอยรับบทบูมซองผู้นำทางพระเอกนางเอกล่องเรือไปตามหาลูกตามชายฝั่งและเกาะต่างๆ คุณเพชร โอสถานุเคราะห์มารับบทเป็นทักษิณ เกาเป็นผู้ร้ายที่ไม่ใช่ผู้วิเศษ  นอกนั้นมีคุณธีระวัฒน์ มูลวิไล คุณอำพล ปานกระโทก คุณสายเชีย วงศ์วิโรจน์ คุณป้าพูน ทับทอง คุณป้าเรือนคำ แสนอินทร์ กับลุง พิท อิ่มเอิบ ร่วมแสดงในบทสมทบคนละฉาก2ฉาก

โจอี้ บอย เข้าฉากกับพระเอกRufus SewellนางเอกEmmanuelle Beart

เพชร โอสาถานุเคราะห์ รับบททักษิณ เกาผู้โหดเหี้ยม

คุณธีระวัฒน์ มูลวิไล ร่วมแสดงสมทบ

อำพร ปานกระโทก และ สายเชีย วงศ์วิโรจน์ ร่วมแสดงสมทบ

(ซ้าย) ป้าพูน ทับทอง 
(ขวา)ลุงพิท อิ่มเอิบ-ป้าเรือนคำ แสนอินทร์ ร่วมแสดงสมทบ

             หลายคนอาจมองว่านี่เป็นภาพยนตร์ที่สร้างขึ้นมาตอกย้ำความเจ็บปวด มาฟื้นฝอยสะกิดแผลให้เจ็บไม่รู้จักจบสิ้นก็มองได้  แต่ภาพยนตร์ก็คือภาพยนตร์แม้จะสร้างมาจากเรื่องจริงอยู่บ้างแต่เจตนาก็เพื่อความบันเทิงเหมือนกันทุกเรื่อง  โดยเฉพาะภาพยนตร์สยองขวัญเรื่องนี้ต้องขอชมช่างแต่งหน้าพิเศษที่แค่เอาขี้โคลนมาทาตัวเด็กแล้วปล่อยให้แห้ง ทาขอบตาดำบ้าง ใบหน้าทาสีแดงบ้าง ทาสีขาวบ้าง ภาพที่ออกมาก็น่ากลัว จนขนลุกซู่แล้ว...เก่งโคตรๆ

วันจันทร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2556

บรู๊ซ ลี ตำนานชีวิตไอ้หนุ่มซินตึ้ง / Legend of the bruce Lee (2008)-tv



บรู๊ซ ลี ตำนานชีวิตไอ้หนุ่มซินตึ้ง / Legend of the bruce Lee (2008)-tv
บทภาพยนตร์... Qian Linsen-Zhang Jianguang / ดนตรีประกอบ... Wang Bing / ลำดับภาพ... Zhang Yifan / ผู้อำนวยการสร้าง... Yu Shengli / ผู้กำกับภาพยนตร์... Lee Moon-ki     
ดารานำแสดง... Kwok-Kwan Chan-Michelle Lang- Ted E. Duran.     
     
                     เรื่องราวของตำนานศิลปะการต่อสู้พระเอกบรู๊ซลีตั้งแต่ชีวิตในฮ่องกงจนไปอยู่อเมริกา  ร่ำเรียนหนังสือ พบรักกับแฟนสาว   ร่ำเรียนวิชากังฟูจนช่ำชอง  จนกลายเป็นพระเอกภาพยนตร์โด่งดัง  จนกระทั่งการตายอย่างอนาถของเขาขณะที่อายุเพียง 32 ปี


                    ในวงการบันเทิงทั่วโลกต้องยอมรับว่า พระเอกบรู๊ซ ลี คือพระเอกกังฟูที่ยิ่งใหญ่  เพียงภาพยนตร์เรื่องเดียวส่งเขาโด่งดังจนตั้งตัวแทบไม่ทัน   ความสำเร็จมาเร็วเกินคาด  ชีวิตครอบครัวที่ไม่ทันเตรียมตัวตั้งรับจึงซวนเซแต่ไม่ถึงกับพังพินาศ   พอตั้งตัวได้  ครอบครัวกำลังจะมีความสุข  มัจจุราชก็มาพรากเขาจากทุกคนไปไม่มีวันกลับ   ชีวิตหนอ...ไม่มีใครคาดเดาอะไรได้เลยว่าจะเกิดอะไร  เมื่อได

                                        Kwok-Kwan Chan

                   ด้านภาพยนตร์ก็เคยสร้างกันไปแล้วชื่อเรื่องว่า  Dragon - The Bruce Lee Story (1993) จึงถึงคราวสร้างเป็นซี่นรี่ย์สฉายทางทีวีกันบ้าง   นอกจากจะยกกองไปถ่ายทำในหลายประเทศที่เป็นสถานที่สำคัญ ในประวัติชีวิตของบรู๊ซ ลีแล้ว  ผู้สร้างยังระดมดารารับเชิญที่ชื่อดังมามากหน้าหลายตา แม้จะไม่ใช่เกรดเอ. แต่พวกเขาก็อยู่ในระดับคนจำได้ ในแถวบ้านเรา เช่น แกรี่ แดเนียลส์  ไมเคิล ไจวาย  มาร์ค คาดาคอส


                 และสถานที่แห่งหนึ่งที่สำคัญ  ที่ส่งให้บรู๊ซ ลีโด่งดังมีชื่อเสียงชั่วข้ามคืนคือโรงน้ำแข็งที่นครราชสีมา ซึ่งเป็นฉากหลักที่ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องแรก(ตอนโต)ของบรู๊ซ ลี  เรื่อง The Big boss (1971) ไอ้หนึ่มซินตึ้งล้างแค้น  ทีมงานสร้างซี่รี่ย์สจึงต้องยกกองมาถ่ายทำที่ประเทศไทย  แต่ไม่ใช่ที่โรงน้ำแข็งเดิม






                     เกิดทันได้ดูละครเรื่อง มายาชีวิต มิตร ชัยบัญชา กับเขาด้วย  ตอนนั้นรู้สึกว่าการโปรโมท หรือโหมโรงก่อสร้างก่อนฉายทางทีวี. มีการประชาสัมพันธ์สัมภาษณ์บุคคลในวงการบันเทิงร่วมสมัยกับมิตรมากมาย  ต่างชื่นชมยกย่องในน้ำใจ ในความดีที่มิตรมีให้   แต่พอได้ดูละครไป ดูไป ดูไป  เรารู้สึกว่าเรื่องไม่ดี  นิสัยอันไม่ดี หลายสิ่งหลายอย่างของมิตรถูกนำมาตีแผ่  มากกว่าสิ่งดีๆเยอะเลย   เราก็เลยดูไม่สนุกนัก   พอมาดูตำนานนี้ของบรู๊ ลี ก็ออกคล้ายๆกัน คือแค่ผู้กำกับฯเอามือแตะบ่าก็เกือบเป็นเรื่องเป็นราวเสียแล้วจะถือตัวอะไรขนาดนั้น   นิทานเรื่องนี้คงจะสอนให้รู้ว่าคนเรานั้นมีทั้งดีและแย่อยู่ในตัวเองทุกคน  ขึ้นอยู่กับการปรับปรุงควบคุมตัวเองให้แสดงออกให้เหมาะสมกับฐานะที่เป็นอยู่ในสังคม  ก็จะงามมาก

ช้างคืนถิ่น /SUNNY ET L’ELEPHANT (2008)



ช้างคืนถิ่น /SUNNY ET L’ELEPHANT (2008)
บทภาพยนตร์...Olivier Horlait &Frederic Lepage /ดนตรีประกอบ..Joe Hisaishi /ถ่ายภาพ...Patrick Blossier /ลำดับภาพ.../ออกแบบงานสร้าง...Yves Brover Rabinovici&ไชยัณห์ จันสุทธิวัฒน์ /ผู้อำนวยการสร้าง...Jean-Pierre Bailly /ผู้กำกับภาพยนตร์...Frederic Lepage
ดารานำแสดง... Simon Woods-Keith Chin-เกริกเกียรติ พูนพิพัฒน์-สิริยากร พุกกะเวส-ดอม เหตระกูล-กฤษดา สุโกศล-นพพันธ์ บุญใหญ่-ศรีกานต์ นาคะวิสุทธิ์-แรม วรธรรม-ธีระวัฒน์ มูลวิไล-นอร์แมน วีระธรรม

           ซันนี่(Keith Chin) หวังว่าโตขึ้นจะได้เป็นควาญช้างเก่งเหมือนพ่อคือลุงบุญ(เกริกเกียรติ พูนพิพัฒน์) แต่สิ่งที่เขาเห็นก็คือเมื่อหมดงานลากไม้ ชาวบ้านคนเลี้ยงช้างในหมู่บ้านอันมีครอบครัวของลุงบุญ มีมาลี(ศรีกานต์ นาคะวิสุทธิ์) มีไอ้ซอ(นพพันธ์ บุญใหญ่)ต่างพาช้างเข้ากรุงเทพฯเพื่อหาเงิน ทำให้กลุ่มผู้รักษ์ช้างอย่างสิริมา(สิริยากร พุกกะเวส) สิงห์(ดอม เหตระกูล)และนิโคราจ(Simon Woods)ต้องรีบมารณณรงค์จัดการเพื่อหาทางเอาช้างคืนถิ่นโดยมีธีระพล(กฤษดา สุโกศล) ให้เงินสนับสนุนแต่เบื้องหลังธีระพลกลับพยายามให้สมุน(ธีระวัฒน์ มูลวิไล)ให้สร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้านเพื่อผลประโยชน์คือการลักลอบจับสัตว์ป่า  แม้นายทุนที่หากินกับช้างจะขัดขวาง นักการเมืองที่หวังสร้างสถานการณ์กับช้างเพื่อหาเสียงจะข่มขู่  พวกเขาต่างนำพาช้างและชาวบ้านกลับเข้าป่าอย่างตั้งใจจนได้


            เป็นภาพยนตร์แนวดราม่า สะท้อนสังคมที่คนรวยก็รวยสุดกู่ คนจนก็จนสุดลิ่มทิ่มประตู เนื้อหาภาพยนตร์มุ่งไปที่คนเลี้ยงช้างกลุ่มหนึ่งที่การดิ้นรนทำมาหากินเอาตัวรอดของพวกเขาที่ไม่มีทางเลือกกลายเป็นสิ่งผิด กลายเป็นปัญหาสังคม   ผู้เขียนบทเองก็ไม่ได้บอกวิธีแก้ปัญหาออกมาเป็นรูปธรรมชัดเจนเพียงรณณรงค์ให้คนเลี้ยงช้าง รักช้าง สงสารช้าง นำช้างกลับบ้านตามเดิมเท่านั้น ส่วนวิธีช่วยเหลือแบบยั่งยืนไม่ทราบว่าเป็นเช่นไรกันแน่  ภาพยนตร์นำแสดงโดย Simon Woods กับหนุ่มน้อย Keith Chin

Simon Woods-สิริยากร พุกกะเวส-Keith Chin
เกริกเกียรติ พูนพิพัฒน์-กฤษดา สุโกศล

            ภาพยนตร์ปักหลักถ่ายทำที่บ้านกี๊ดช้าง อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ และที่กรุงเทพฯเช่นถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ถนนสาธร โดยมีบริษัทลีเจนท์ฟีล์มของไทยร่วมงานสร้าง และยังมีทีมงานขอบริษัทซานต้าฟีล์มเข้ามาเสริมทีมอีกแรง ผลงานออกมาคุ้มเสียยิ่งกว่าคุ้ม  มีดาราไทยที่มีชื่อเสียงและไม่มีชื่อเสียงแต่คุ้นหน้าคุ้นตากันร่วมแสดงก็หลายคน   มีคุณเกริกเกียรติ พูนพิพัฒน์รับบทนำร่วมกับ Keith Chin กับ Simon Woods คุณอุ้มสิริยากร พุกกะเวสมารับบทสิริมาสาวกลุ่มคนรักษ์ช้าง  คุณกฤษดา สุโกศลในบทนายทุนตัวร้าย คุณดอม เหตระกูลในบทหนุ่มนักอนุรักษ์ช้าง นางเอกวัยรุ่นเพิ่งกลับจากเมืองนอกมาหมาดๆศรีกานต์ นาคะวิสุทธิ์ รับบทมาลี คุณนพพันธ์ บุญใหญ่รับบทซอที่อยากรวยจนต้องขายยาเสพติด คุณแจ๊ค-ปริญญา รุ่นประพันธ์มารับบทตำรวจหนุ่ม  คุณแรม วรธรรมรับบทหลวงพ่อ คุณธีระวัฒน์ มูลวิไลรับบทสมุนของนายทุนธีระพล คุณนอร์แมน วีระธรรมรับบทผู้รายงานข่าวทีวี.ตอนช่วยช้างที่ตกแอ่งน้ำ

คุณเกริกเกียรติ พูนพิพัฒน์(คนมีหนวด)ในภาพยนตร์เรื่อง ช้างคืนถิ่น

                     คุณอุ้ม-สิริยากร พุกกะเวสในภาพยนตร์เรื่อง ช้างคืนถิ่น


คุณศรีกานต์ นาคะวิสุทธิ์ ในภาพยนตร์เรื่อง ช้างคืนถิ่น

(บน) คุณดอม เหตระกูล 
(ล่าง) คุณนพพันธ์ บุญใหญ่ ในภาพยนตร์เรื่อง ช้างคืนถิ่น

(บน) คุณกฤษดา สุโกศล 
(ล่าง) (ซ้าย)ธีระวัฒน์ มูลวิไล(คนกลาง) / (ขวา) นอร์แมน วีระธรรม

(ซ้าย)คุณแรม วรธรรมในบทพลวงพ่อ
(ขวา)คุณแจ๊ค-ปริญญา รุ่นประพันธํในบทตำรวจไทย

            เนื้อหาภาพยนตร์เรื่องนี้มันก็เป็นเรื่องที่อยู่ใกล้ๆตัวคนไทยเรานี่เอง ปัญหาช้างเร่ร่อน เจ้าของพามาเดินขอทานอย่างน่าสมเพชไร้ศักดิ์ของความเป็นสัตว์ใหญ่เจ้าป่า  ยิ่งบ้านเรามีหมีแพนด้านามว่าหลินปิงเกิดขึ้นมาอีกหนึ่งชีวิต กระแสคลั่งหมีแพนด้าก็ทำให้สัตว์อื่นๆไร้คนสนใจ แม้กระทั่งช้างสัตว์คู่บ้านคู่เมืองยังถูกเจ้าของปรับเปลี่ยนลุกซ์ใหม่เพื่อความอยู่รอดทั้งคนและช้างจนกลายเป็นช้างแพนด้า...

ช้างแพนด้า

จระเข้และม้า แพนด้า

           แค่ช้างยังไม่พอ ยังลามไปถึงจระเข้แพนด้า แม้กระทั่งม้าและหมาน้อยธรรมดาล้วนต้องกลายพันธุ์เป็นหมาแพนดี้หมีแพนด้ากันไปหมด   เห็นแบบนี้แล้วไม่ทราบว่าจะขำ...หรือร้องให้ดี