ศานตาราม สันติสุขจงบังเกิด / Shantaram (2022)

 

ศานตาราม สันติสุขจงบังเกิด / Shantaram (2022)

บทภาพยนตร์… Bornila Chatterjee-Shaun Gray / ดนตรี...Adam Peters / ถ่ายภาพ…Stefan Duscio /ลำดับภาพ…Geraud Brisson / ผู้อำนวยการสร้าง...Charlie Hunnam-Ben Dubash-Marisha Mukerjee-Marion Dayre / ผู้กำกับภาพยนตร์… Bharat Nalluri-Iain B. MacDonald-Bronwen Hughes

ดารานำแสดง… Charlie Hunnam-Fayssal Bazzi-Sujaya Dasgupta-Antonia Desplat

           ช่วงปี ค.ศ. 1980 เดล โรเบิร์ต(Charlie Hunnam) ชายชาวออสซี่ ก่อคดีปล้นหลายครั้งในออสเตรเลีย และแหกคุกหนีมาที่นครบอมเบย์ (มุมไบในปัจจุบัน) สาธารณรัฐอินเดีย เดลได้พบกับพราบู(Shubham Saraf) ไกค์ชาวพื้นเมืองซึ่งตั้งชื่อใหม่ให้เขา ว่า “ลินบาบา” แต่แม่ของพราบูเรียกเดลเป็นภาษามราฐีว่า “ชานทารัม” แปลว่า บุคคลแห่งสันติสุขในพระเจ้า ต่อมาเดลได้พบกับ คาร์ลา(Antonia Desplat) สาวลูกครึ่งสวิส - อเมริกัน เธอชักชวนเดลไปแสดงภาพยนตร์บอลลีวูด และทำงานใต้ดินผิดกฎหมายจนถูกจับเข้าคุก เมื่อเดลได้ออกจากคุก เขาเดินทางไปทวีปแอฟริกา ขายอาวุธผิดกฎหมาย แต่สุดท้าย เดลเริ่มตระหนักถึงสัจธรรมของชีวิต เขาเดินทางกลับไปอินเดีย เพื่อต่อสู้กับความจริง และสร้างชีวิตใหม่โดยไม่ทำผิดกฎหมายอีก

          Shantaram เป็นละครโทรทัศน์ระทึกขวัญแนวดราม่าอเมริกัน-ออสเตรเลียที่สร้างโดย Eric Warren Singer และ Steve Lightfoot อิงจากนวนิยายชื่อเดียวกันโดย Gregory David Roberts  ชื่อซีรี่ย์ Shantaram เป็นชื่อฮินดูที่ชาวบ้านชาวอินเดียตั้งให้ เดล โรเบิร์ต ซึ่งหมายถึง "บุรุษแห่งสันติสุขของพระเจ้า" แต่ลินฟอร์ดในเรื่องนี้ตามที่เห็น – ไม่คู่ควรกับตำคำนี้เสมอไป

            เนื้อเรื่องอิงจากเหตุการณ์จริง การแสดงของชาร์ลี ฮันนัมก็ดีมาก 3 ตอนแรกมันเริ่มต้นได้ดีและช่วยให้คุณเข้าถึงเรื่องราวทั้งหมดได้ง่ายขึ้น คุณรู้สึกได้ถึงความทุกข์และความขัดแย้งของตัวละครหลัก และสไตล์การถ่ายทำ การดำเนินเรื่องทำให้คุณรู้สึกราวกับว่าคุณอยู่ในเรื่องราวนั้นด้วย ผู้ชมเหมือนมีโดนติดกล้องติดตามถ่ายเพื่อดูการเดินทางครั้งนี้  สาเหตุที่ผู้ชมไม่ชอบใจก็คือเหตุเดิมๆของผู้ชมที่ชื่นชอบนิยายต้นฉบับ ที่ซีรี่ย์มีการดัดแปลงเปลี่ยนไปบ้าง แต่ถึงจะหงุดหงิด แต่ก็คงเข้าใจดีถึงวิธีการดัดแปลงบทมาสร้างเป็นภาพ เป็นภาษาของภาพยนตร์ ว่ามันจำกัดกว่าภาษาเขียน

          ภาพยนตร์ซีรี่ย์นี้ถ่ายทำในออสเตรเลียก่อนแล้ววางแผนไปถ่ายต่อที่ มุมไบ แต่ก็เปลี่ยนใจแวะมาที่ประเทศไทย เพราะผู้ใหญ่ของรัฐบาลไปโฆษณาชวนเขามา แต่ก็มาเจอปัญหาโลกแตกคือโควิด-19 การถ่ายทำถูกระงับทั้งหมด มันจึงเกิดความรู้สึกที่แย่ต่อกองถ่ายเอามากๆ ซึ่งมันม่าเกิดผลดีต่อประเทศไทยเลย เราเชื่อว่าถ้าเราทำในสิ่งที่ถูกต้อง เพื่อส่วนรวม เพื่อโลกของเรา เราไม่กลัวว่าใครจะไม่เข้าใจ

สถานที่ถ่ายทำ

กรุงเทพมหานคร (เวิ้งนาครเขษม)

จังหวัดสมุทรปราการ (The Studio Park)

จังหวัดนนทบุรี (บ้านล้อเกวียน)

ระยะเวลาการถ่ายทำ : 14 กรกฎาคม - 1 กันยายน 2564

ประเภทของการถ่ายทำ : ภาพยนตร์ชุดทางโทรทัศน์ดังกล่าว มีทั้งหมด 12 ตอน โดยช่วงแรกดำเนินการยื่นขออนุญาต จำนวน 3 ตอน คือ ตอนที่ 1 - 3 มีฉากทั้งหมด 162 ฉาก ถ่ายทำในประเทศไทย จำนวน 82 ฉาก คิดเป็นร้อยละ 52.23 ของเรื่อง ไม่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับประเทศไทย สมมติเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสาธารณรัฐอินเดีย ฉากไกด์นำเที่ยวพาพระเอกเที่ยวรอบเมืองบอมเบย์ ฉากพระเอกได้เจอกับนางเอก ฉากนางเอกขอร้องให้พระเอกปลอมตัวเป็นเพื่อนนางเอก เพื่อหนีออกจากสถานที่โลกีย์ ฉากพระเอกถูกแก๊งประจำถิ่นทำร้าย ฉากพระเอกถูกขโมยเงินและพาสปอร์ต ฉากพระเอกพยายามหาลู่ทางให้ได้พาสปอร์ตคืน ฉากพระเอกเริ่มทำธุรกิจกับเพื่อน ฉากพระเอกต่อสู้กับคนสะกดรอยตาม ฉากไฟไหม้ในชุมชน ฉากพระเอกให้เงินกับหัวหน้าชุมชนเพื่อสร้างบ้านใหม่หลังจากไฟไหม้ และฉากพระเอกได้รู้จักกับผู้ทรงอิทธิพลในเมือง

           อย่าประเมินฝีมือพระเอก ชาร์ลี ฮันนัม ต่ำไป

ขอบคุณ-IMDB-Thai film office-Aple TV+