วันจันทร์ที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2557

เชียร์สุดใจ คว้าชัยโลกตะลึง / The Cheer Ambassadors (2011)


เชียร์สุดใจ คว้าชัยโลกตะลึง / The Cheer Ambassadors (2011)
ผู้ลำดับภาพ...ดวงพร  ผกาวิโรจน์กุล/ผู้อำวยการสร้าง... Jason W. Best-Annie Cassady-Richard Dick Cassady-John Scott/ผู้กำกับภาพยนตร์... Luke Cassady-Dorion
ดารานำแสดง... Premjit Amnuckmanee-Anuphan Boondok-Suebsai Boonveerabut

                 บันทึกเรื่องราวแรงบันดาลใจชองทีมเชียร์ลีดเดอร์ทีมชาติไทยของโค้ชและทีมงานของเขาขณะที่พวกเขาเดินทางจากถนนในเมืองและนาข้าวในประเทศไทยไปคว้าแชมป์โลก ในออร์แลนโด, ฟลอริด้า


                เป็นสารคดีความยาวพอสมควรที่นำเสนอเกี่ยวกับความน่าทึ่งของนักกีฬาเชียร์ฯ ในประเทศไทยและการเดินทางของพวกเขา   จากความฝันของหนุ่มสาวตั้งแต่ในวันที่พวกเขาอยากเป็นนักกีฬาเชียร์ลีดเดอร์ ก็คือการได้เข้าร่วมการแข่งขันเชียร์ลีดเดอร์ชิงแชมป์โลก    ภาพยนตร์เรื่องนี้มุ่งเน้นไปที่โค้ชและสมาชิกในทีมที่สำคัญ   ซึ่งอธิบายความสัมพันธ์ ความมีน้ำใจ  สปิริตและการเสียสละของพวกเขา    พวกเขาฝึกซ้อมจนดึก   ภาพยนตร์เรื่องนี้มีมุมมองที่ไม่ซ้ำกันในพลังของความฝันและสิ่งที่จะให้ทีมที่จะเป็นแชมป์    The Cheer Ambassadors เป็นเรื่องสากลของความรัก






                 ก็เป็นเรื่องของนักกีฬาเชียร์ลีดเดอร์ไทย จะให้ไปถ่ายทำกับใครที่ไหนได้ละครับ ก็ต้องถ่ายทำในประเทศไทยเรานี่แหละ  โดยเฉพาะมหาวิทยาลัยกรุงเทพ สถาบันที่น้องๆนักกีฬาฯเขาศึกษาอยู่  แต่เรื่องแบบนี้ สารคดีแบบนี้ผู้สร้างคนไทยน้อยคนจะคิดสร้าง  ถ้าไม่มีผู้สร้างฝรั่งมาทำก็คงไม่มีให้ดูกัน  และผู้กับเขาก็แน่มากจริงๆ  สิ่งประกวดในเทศกาลปุ๊บก็ได้รางวัลปั๊บ  ทำให้คนไทยได้ปลื้มไปด้วย
     The Cheer Ambassadors ได้รับรางวัล Audience Award จากเทศกาล ChopShots Docnet South East Asia


                  ลุค แคสซาดี-ดอเรียน ผู้กำกับที่พำนักอยู่ในเมืองไทยมายาวนาน และเป็นตัวแทนการนำเสนอภาพยนตร์เรื่องนี้ต่อทั่วโลก กล่าวว่า "ผมเรียกเมืองไทยว่าบ้าน เพราะผมรักที่นี่มาก และเราก่อตั้งบริษัท A Single Production Company ขึ้นเพื่อทำหนังที่ปี่ยมด้วยแรงบันดาลใจ เพื่อนำเสนอเรื่องราวด้านบวกของประเทศไทย หลายปีที่ผ่านมาภาพลักษณ์ของประเทศไทยไม่ดีนัก การที่หนังเรื่องนี้ออกฉายในเทศกาลภาพยนตร์ทั่วโลกจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก พอหนังจบมีคนดูหลายคนเดินน้ำตาคลอเข้ามาหาผม แล้วบอกว่านักกีฬาจากเมืองไทยสร้างแรงบันดาลใจแก่พวกเขาอย่างมากมาย การที่สามารถช่วยให้ชาวต่างชาติมองประเทศไทยด้วยสายตาที่เปลี่ยนไปเป็นสิ่งที่มีความหมายกับผมมาก และผมรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมากที่หนังเรื่องนี้ได้เข้าฉายที่ประเทศไทยและผมอยากเห็นการตอบรับจากคนดูชาวไทยด้วย

                  ว่างัย! เล่าคนไทยผู้กำกับฯฝรั่งเขาพูดถึงขนาดนี้ ไม่ไปดูกันหน่อยหรือ

วันอาทิตย์ที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2557

รักสุดขอบฟ้า ล่าข้ามโลก / Bang Bang (2014)


รักสุดขอบฟ้า ล่าข้ามโลก / Bang Bang (2014)
บทภาพยนตร์... Sujoy Ghosh-Suresh Nair/ดนตรีประกอบ... Vishal Dadlani-Shekhar Ravjiani/ผู้ถ่ายภาพ... Ben Jasper-Sunil Patel-Vikas Sivaraman/ผู้ลำดับภาพ... Akiv Ali/ผู้อำนวยกาสร้าง... Armit Chhabra-Sheel Nimblkar-Prashant Shah/ผู้กำกับภาพยนตร์... Siddharth Anand
ดารานำแสดง... Hrithik Roshan-Katrina Kaif-Ron Smoorenburg

              พันเอกนันดาไปเยี่ยมนักโทษซาฟาที่ถูกขังอยู่ที่ลอนดอน ขณะเดียวกันกูลสมุนของซาฟาก็พาพวกมาชิงตัวซาฟาโดยฆ่าแล้วเผานันดาก่อนจะขึ้นเฮลิปคอปเตอร์บนดาดฟ้าหนีไป    ซาฟาประกาศจะให้ ห้าล้านดอลลาร์กับคนที่ขโมยเอาเพชรชื่อ “โคอินัวร์” ที่ยอดหอคอยในลอนดอนมาให้เขาได้ แต่ขโมยต้องเป็นคนอินเดียเท่านั้นเพราะเมื่อถูกจับได้ก็สามารถใช้กฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดนได้  แล้วชายคนหนึ่งชื่อราจีฟก็ทำสำเร็จขโมยเพชรมาได้แต่เขาเปลี่ยนรางวัลเป็นยี่สิบล้านดอลลาร์แทน  ราจีฟต้องหลบหนีไปกบดานแต่พวกซาฟาก็หาพบว่าเขาอยู่ไหน  จึงตามไปจัดการราจีฟจนบากเจ็บ ซึ่งขณะนั้นเขาได้พบและขอให้ฮาลินช่วยเย็บแผลให้  แต่ไม่นานก็ถูกตามล่าอีก ฮาลินจึงต้องหนีไปกับราจีฟด้วย  เขาทั้งคู่จะหนีไปไหน   จะถูกจับหรือไม่  ต้องลุ้นในตอนจบเอาเอง...


             ภาพยนตร์จากบอลีวู๊ดแนวแอ๊คชั่นมันหยดติ๋งๆๆที่ลงทุนสร้างมหาศาลบานเบอะถ่ายทำกันตั้งแต่สาธารณรัฐเชค  กรีซ  อาหรับเอมิเรส  ประเทศไทย และหลายๆเมืองในอินเดียเอง  ภาพยนตร์ออกละม้ายคล้าย ไนท์แอนด์เดย์ ของพ่อทอม ครู๊ซ กับแม่ คามิรอน ดิแอซประมาณนั้น  ซึ่งฉากแอ๊คชั่นก็ทำได้น่าสนใจ 


             สถานที่ในไทยน่าจะเป็นสถานที่ๆสมมุติว่าอยู่ที่ปราก  เป็นรีสอร์ทส่วนตัวที่คิดว่าปลอดภัยแน่ๆ แต่นางเองก็ดันใช้โทรศัพท์พระเอกโทร.หาคุณย่าคุณยาย  เจ้าหน้าที่รัฐเลยรู้แหล่งส่งกำลังพลมาตามจัดการ  ผู้สร้างก็เลือกถ่ายทำที่ภูเก็ต และหมู่เกาะซิมิลัน ที่มีการค้นพบตะขาบพันธุ์ใหม่ชื่อว่า ตะขาบสีม่วงสิมิลัน  เห็นหาดทราย ทะเลแล้วทึ่ง สวยงามมากจริงๆ ดาราไทยมีชื่อไม่มีใครร่วมแสดง  มีดาราต่างประเทศที่อยู่เมืองไทย พูดไทยได้อย่าง รอน สมูลเบิร์ก ร่วมแสดง







โลเกชั่น-ภูเก็ต หมู่เกาะสิมิลัน  ประเทศไทย

รอน สมูลเบิร์ก-ร่วมแสดง


            คำว่า bang bang! มันก็คงเป็นเสียงปืนที่ยิงออกไป 2 นัด ปัง ปัง! เป็นการสรุปว่ายิงกันทั้งเรื่อง  ซึ่งระยะหลังมานี่พระเอกภาพยนตร์อินเดียต่างต้องฟิตร่างการแสดงแอ๊คชั่นเอง  เรียกว่าทุกคนต้องมีซิกแพ็ค เซเว่นแพ็ค กันถ้วนหน้า  ว่ากันไปตามยุคสมัย

วันอาทิตย์ที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2557

ส่องกล้องมองสยาม / Siamese Society (๒๔๖๓) ขาว-ดำ / เงียบ


ส่องกล้องมองสยาม / Siamese Society (๒๔๖๓) ขาว-ดำ / เงียบ
ผู้สร้าง-ผู้ถ่ายภาพ...Richard Berton Holmes

               ภาพยนตร์บันทึกภาพเมืองสยามของ ริชาร์ด เบอร์ตัน โฮล์ม นักถ่ายภาพยนตร์ชาวอเมริกัน ผู้มีหลักฐานว่าเคยส่งคณะเข้ามาถ่ายทำในสยาม ๒ ครั้ง คือ พ.ศ. ๒๔๕๓ และ พ.ศ. ๒๔๖๓ จากข้อเขียนของ ต. ประทีปเสน ครูโรงเรียนสตรีวังหลัง พบว่าครั้งหนึ่ง เบอร์ตัน โฮล์ม ได้เคยขอใช้สถานที่และครูนักเรียนเป็นตัวแสดงภาพยนตร์ เพื่อสาธิตวัฒนธรรม ขนบประเพณีของชาวสยาม ซึ่งหอภาพยนตร์ได้เคยพบฟิล์มภาพยนตร์ลักษณะนี้เพียงบางส่วน ก่อนจะมีผู้เผยแพร่ฉบับเต็มบนเว็บไซต์ยูทูบ ในชื่อ Thailand In Siamese Society circa 1925 สันนิษฐานว่าเป็นภาพยนตร์ที่เขาและคณะเข้ามาถ่ายในครั้งที่ ๒ ในประมาณปี ๒๔๖๓ ซึ่งมีเรื่องราวสอดคล้องกับที่ ต. ประทีปเสนเขียนเล่าไว้




              ภาพยนตร์ใบ้ แบะๆๆ มีสีขาวดำ 2 สี ใช้วิธีใช้คำบรรยายคั่นในแต่ละช่วงที่นำเสนอ มิได้เจาะจงถ่ายภาพบ้านเมือง  แต่ตั้งใจนำเสนอเรื่องขนบธรรมเนียม ประเพณีปฏิบัติของคนไทยยุคเก่าก่อน  การนุ่งโจงกระเบน  การกินหมาก  การทักทายด้วยการสวัสดีและไหว้  การประแป้งแต่งตัว ซึ่งก็ได้ใจความพอเหมาะกับเวลาสั้นๆที่นำเสนอ 10 นาทีประมาณนั้น

 







             ก็ต้องขอขอบคุณคำโตๆต่อคุณ ริชาร์ด เบอร์ตั้น โฮล์ม ที่มาเก็บภาพเหล่านั้นเอาไว้ให้คนไทย(สยาม)รุ่นหลังๆได้ดู  ได้เห็นอดีตของตนเองที่มีความงดงาม ควรสืบสานต่อไปชั่วฟ้าดินสลาย และที่สำคัญผู้สร้างฯทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้กลายมาเป็นมรดกภาพยนตร์ไทยที่มีค่าสูงสุดเรื่องหนึ่ง



             พูดถึงการขึ้นทะเบียนมรดกภาพยนตร์ไทย บอกตรงๆเป็นส่วนตัวว่าไม่ค่อยจะเห็นด้วย  เพราะคิดว่า ภาพยนตร์ไทยทุกเรื่อง มีคุณค่าทางด้านมารดก วัฒนธรรมของไทยเท่าเทียมกัน  ทุกเรื่อง(รวมแม้บ้านผีปอบ) ก็คือมรดกภาพยนตร์ไทยทั้งนั้นใครขึ้นทะเบียนก่อนหลังมันต่างกันตรงไหน  แต่ผู้เกี่ยวข้องอาจมีเหตุผลอะไรที่เราไม่รู้ไม่เข้าใจก็ว่ากันไปตามใจเขา

วันอาทิตย์ที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2557

เที่ยวเมืองไทย กำไรชีวิต / Glückliche Reise: Thailand (1992)


เที่ยวเมืองไทย กำไรชีวิต / Glückliche Reise: Thailand (1992)
บทภาพยนตร์...Peter Weissflog/ผู้อำนวยการสร้าง... Horst Schäfer/ผู้กำกับภาพยนตร์....Hermann Leitner
ดารานำแสดง...Juraj Kukura-Volker Brandt-Anja Kruse

                  การเดินทางที่มีความสุขหมายถึงการหลบหนีจากชีวิตประจำวัน    การเริ่มต้นฝันถึงแหล่งท่องเที่ยวทั่วโลก
เป้าหมายของของกัปตันวิคเตอร์นั้นขึ้นอยู่กับลูกเรือของเขา ที่ไม่เพียง แต่เที่ยวชมสถานทีอันสวยงาม แต่ยังสนใจวิถีชีวิตชาวบ้าน  การผจญภัยที่น่าตื่นเต้นในดินแดนที่มีสถานที่ที่สวยงามที่สุดในโลก   การแก้ปัญหาความสัมพันธ์และความขัดแย้งของลูกเรือระหว่างเดินทาง


                ภาพยนตร์ซี่รี่ย์ฉายทางทีวี เกี่ยวกับการนำเที่ยวที่ประสบความสำเร็จ เป็นหนึ่งในโปรดักชั่นแรกๆของสถานีโทรทัศน์  ProSieben  ซึ่งดึงดูดผู้ชมจนเรทติ้งกระฉูด ในปี 1991   ซึ่งในซีซั่นที่ 2 อีปิโสด 1 เริ่มด้วยมนต์เสน่ห์ของผืนแผ่นเดินไทย นำล่องจึงทำให้ผู้ชมติดตราตรึงใจ รอชมตอนต่อๆไปว่าจะสวยเช่นเดียวกับกรุงเทพฯบ้านเราหรือไม่


               ในตอนประเทศไทยนี้เป็นตอนกับตันวิคเตอร์นำพาลูกทัวร์มาท่องกรุงเทพฯ  มีนักขนยาคนไทยนำยาเสพติดแอบซ่อนในกระเป๋ากัปตันหลุดรอดเข้ามาได้  จึงหาทางตามเอายาเสพติดคืน  ลูกเรือแตกเป็นหลายกลุ่มแยกย้ายกันเที่ยวจนยากที่จะควบคุม เหมือนจับปูใส่กระด้ง










โลเกชั่น-กรุงเทพฯ และ พัทยา ชลบุรี
        
ภาพยนตร์เข้ามาถ่ายทำในกรุงเทพฯ มีพระที่นั่งอนันต์ให้เห็น  อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย  ภูเขาทอง  วัดอรุณฯ
แม่น้ำเจ้าพระยา  ลำคลอง  โรงแรมดุสิตธานี  รถตุ๊กๆ  เยาวราช  และมีพัทยาแว่บๆ  มีดาราสมทบไทยคนหนึ่งมาแสดงเป็นนักขนยาเสพติด


ดาวร้ายสมัยเก่า
                 ดูเนื้อหาที่ช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวบ้านเราไม่มากก็น้อยแล้ว  ก็ขอบอกขอบใจกันไป  แต่ไอ้เรื่องยาเสพติดเสพเติดอะไรนี่ก็ให้เพราๆลงมาหน่อยจะดีกว่า   ตำรวจไทยเราเก่งมหาศาลอย่าได้คิดว่ายาไม่กี่ห่อจะเล็ดลอดตาตำรวจไทยไปได้  เราจมูกหมา นัยน์ตาเหยี่ยวนาโว้ย! อุ๊ย...

วันพุธที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2557

แดนสวรรค์อันตราย / IS 1 – Danger in Paradise – Pilot (2012)tv


แดนสวรรค์อันตราย / IS 1 Danger in Paradise – Pilot (2012)tv
บทภาพยนตร์... Arne Nolting and Jan-Martin Scharf/ดนตรีประกอบ... Ludwig Eckmann-Nikolaus Glowna/ถ่ายภาพ... Christian Paschmann/ลำดับภาพ... Benjamin Ikes/ผู้อำนวยการสร้าง... Stephan Bechtle /ผู้กำกับภาพยนตร์... Jan Martin Scharf.
ดารานำแสดง... Jana Pallaske- Tobias Oertel-Eva Maria Grein-Uwe Bohm-Max Kidd-Katharina Abt-Peter Davor-Michaela Rosen-Maverick Queck a.o.

                    นักท่องเที่ยวแบกเป้เยอรมันชื่อ เฟลิกซ์ ต้องไปอยู่ในคุกประเทศไทยเพราะถูกกล่าวหาในคดีฆาตกรรม ตอนแรกลิซ่าแฟนสาวเขาของลิซ่าให้การด้วยข้อแก้ตัวและพูดทุกอย่างที่มีลักษณะปฏิเสธข้อกล่าวหาแทนเขา  แต่แล้วลิซ่า กลับคำให้การของเธอ   สองนักสืบหนุ่มสาว ฟลอเรนตัวแทนจาก CIที่ชอบทำงานคนเดียว และนัดจานักจิตวิทยา ต้องเข้าไปคลุกคลีในวัฎจักรผิดกฎหมาย และนำตัวเองไปตกอยู่ในอันตราย เพื่อช่วยให้นักท่องเที่ยวพ้นข้อกล่าวหา


                 "IS 1 - อันตรายในสวรรค์"  คือการผสมผสานความสนุกสนานของการผจญภัยและความลึกลับ  หักเหลี่ยมหักมุมด้วยบทสนทนาที่มีชั้นเชิงและไหวพริบแพรวพราว  นับว่าเป็นซี่รี่ย์ทางทีวี ที่น่าดูเรื่องต้นๆเรื่องหนึ่ง


                   เมื่อกล่าวถึงเมืองไทย  ก็มาถ่ายทำที่เมืองไทย  เก็บภาพสิ่งละอันพันละน้อยในบ้านเราทั้งเชียงใหม่  แม่ฮ่องสอน  และกทม. ใส่ไว้ในภาพยนตร์ที่ยาวประมาณชั่วโมง ได้อย่างไม่เสียเที่ยวเสียความรู้สึกเจ้าบ้าน  หลังจากนี้เขาก็ไปถ่ายฮ่องกง  มาเลเซีย ลาว กัมพูชา ฯ




โลเกชั่น-ประเทศไทย

คุณธนภัทร ศรีงามรัตน์





  เบื้องหลังการถ่ายทำในไทย
                   นักท่องเที่ยวมากมายที่เข้ามาทำไม่ดีในบ้านเรา  แต่พอเกิดเรื่องเกิดราวขึ้นก็โวยวายหาว่าบ้านเราชั่วร้าย อันตรายก็มี  ยิ่งช่วงที่การท่องเที่ยวบูม  เงินทองไหลมาเทมาบ้านเรา ยิ่งมีแต่คนโอ๋นักท่องเที่ยว  คนไทยก็เลยหันมาด่าใส่กันเองอีกว่าทำชื่อเสียงประเทศเสียหาย  ดูจากภาพยนตร์มากมายหลายเรื่อง  เขามาเที่ยวบ้านเรา  มาถูกจับเรื่องฆาตกรรมบ้าง  ถูกจับขนยาเสพติดบ้าง  ก่อการร้ายบ้าง  แต่เขากลับมาสร้างเป็นภาพยนตร์ด่าหาว่าขบวนการยุติธรรมบ้านเราล้าหลัง  ทำงานกันช้าอืดอาด  พยายามจะชิงด่าเราก่อนประจำ

                 ก็ถ้ามาเที่ยวดีๆ มีความสุข  ถ้าคุณ ไม่ทำผิดกฎหมายอะไรก็ไม่มีเรื่องต้องมาจับกันไม่ใช่เรอะ!