วันเสาร์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2556

แอนนากับพระเจ้ากรุงสยาม / Anna and the King (1999)


แอนนากับพระเจ้ากรุงสยาม / Anna and the King (1999)
บทภาพยนตร์... Steve Meerson-Peter Krikes/ดนตรีประกอบ... George Fenton-Robert Kraft/ถ่ายภาพ...Caleb Deschanel/ลำดับภาพ...Roger Bondelli/ผู้อำนวยการสร้าง...Ed Elbert-Lawrence Bender/ผู้กำกับภาพยนตร์...Andy Tennant
ดารานำแสดง...โจดี้ ฟอสเตอร์-โจวเหวิ่นฟะ-ไบ่หลิง

           แอนนา ลีโอโนเวนส์ (โจดี้ ฟอสเตอร์) และพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 (โจวเหวิ่นฟะ) แอนนาเป็นแม่หม้ายที่เข้ามาในประเทศสยามพร้อมกับหลุยส์ลูกชายของเธอเพื่อที่จะเข้ามาสอนภาษาอังกฤษให้พระราชทายาททั้งหมด 68 พระองค์  ในระหว่างที่เป็นครูสอนนั้น ในสยามเกิดเรื่องมากมายซึ่งแอนนาได้รู้ได้เห็น


          บทภาพยนตร์ดัดแปลงมาจากหนังสือของแอนนา ลีโอโนแวนส์ หรืออาจจะดัดแปลงจากบทละครเวทีที่โด่งดังเมื่อทำการแสดงครั้งแรก  ออกแนวประวัติศาสตร์ ประวัติชีวิตของแอนนาที่มีโอกาสได้เข้ามอยู่ในรั้วในวังของประเทศสยามจนกระทั่งหมดภาระหน้าที่ กลับบ้านไป  เธอจึงรวบรวมประสบการณ์ทั้งหลายที่พบเห็นเจอะเจอเขียนเป็นหนังสือเล่าเรื่องให้คนอื่นได้ร่วมตื่นเต้นและสนุกสนานไปกับเธอด้วย  ขนาด ก.สุรางคนางค์ ยังมีแรงบันดาลใจนำไปเขียนนิยาย “เขมรินทร์อินทิรา” ให้คนไทยอ่านติดกันงอมแงม


         เนื่องจากเนื้อหาที่หมิ่นเหม่ จาบจ้วง สถาบันอันเป็นที่เคารพรักของเราคนไทย  เรื่องละเอียดอ่อนแบบนี้ไม่มีวันที่คนไทยจะรับได้  แม้ผู้สร้างจะพยายามแก้บทสักกี่ครั้งก็ไม่มีใครสามารถอนุญาตให้ยกกองถ่ายทำเข้ามาถ่ายทำได้  ก็ต้องปฏิเสธเขาไปแม้จะน้ำลายไหลเสียดายเงินก้อนโตที่เขานำเข้ามาใช้จ่าย  แต่ช่างเถอะได้ไม่คุ้มเสีย  ทางทีมงานจึงหันเข็มไปถ่ายทำที่มาเลเซีย ซึ่งที่นั่นเขาก็ไม่รีรอที่จะตกลงอนุญาตทันที (อาจหยุดคิด 2-3 นาที ว่าจะได้สักเท่าไหร่)  เมื่อเขาถ่ายทำจบ ก็แน่นอนอีกเหมือนกันว่าจะไม่ให้นำเข้ามาฉายในบ้านเรา  ก็ห้ามถ่ายแล้วจะมายอมให้ฉาย ใครๆรู้เข้าจะหาว่ากองเซ็นต์เซอร์ไทยเสียสติ  แต่กันคำครหานินทากาเลเหมือนเทแกลบ ท่านกองเซ็นต์เซอร์ก็เลือกมา 33 จุดที่บิดเบือนความจริง(เสิร์ชหาอ่านได้ในกูเกิ้ล) ซึ่งบอกตรงๆว่าถึงไม่มี 33 จุดนั่นก็ไม่ให้ฉาย



ฉากพระราชวังสร้างใหม่ในมาเลเซีย

        ในภาพยนตร์เรื่องนี้มีทีมงานไทยเหลือไม่กี่คนที่ช่วยงานสร้างเขาอยู่ ซึ่งก็ไม่ได้มีปากมีเสียงแก้ไขอะไรได้  แต่เพราะบ้านต้องเช่า ข้าวต้องกิน สเต๊ก พิซซ่าก็ต้องกิน ก็ต้องทำเพื่อปากเพื่อท้อง  คนที่พอยื้อกับฝรั่งได้ก็มีคุณเผ่าทอง  ทองเจือท่านเดียว  ที่เถียงฝรั่งได้เพราะพูดภาษาอังกฤษได้และฟังรู้เรื่อง  แต่เมื่อฝรั่งไม่เชื่อก็ได้แต่ค้อนให้  จะให้ไปทำอะไรเขาได้ละครับท่าน  ตอนแรกท่านก็โดนด่าว่าเป็นคนไม่รักชาติ ไปช่วยฝรั่งดูถูกคนไทย  แต่การที่ท่านไปช่วยอย่างน้อยก็เพื่อให้มันเกิดความถูกต้องอย่างที่เราต้องการ  ถึงจะได้ไม่มากแต่ก็ขอให้มันถูกต้องบ้าง ไม่งั้นเซ็นต์เซอร์ต้องเจอจุดที่บิดเบือนความจริงมากกว่า 100 จุดแน่ๆ

ช้างไทยจากสุรินทร์



ฉากสร้างใหม่ในมาเลเซีย


คุณ เผ่าทอง  ทองเจือ ร่วมแสดงด้วย

       ยังงัยๆก็ห้ามเขาสร้างไม่ได้  และก็ไม่ทราบว่าเขาจะสร้างกันอีกกี่ครั้งในอนาคต  ถ้าเราได้ช่วยเขาให้เขาแก้ไขให้ถูกต้องสักเวอร์ชั่นละ 30%  สุดท้ายก็อาจจะมีแอนนา แอนด์ เดอะ คิง ฉบับที่ถูกต้องสมบูรณ์แบบ คนไทยแฮปีี้ และเป็นต้นฉบับของการสร้างครั้งต่อๆไปก็เป็นได้   แต่ปัญหาที่เถียงกันไม่จบก็คือ อะไรคือความจริง  อะไรคือสิ่งที่ถูกระหว่าง ความคิดตามการสันนิษฐาน ค้นคว้าในเรื่องนี้ ของนักวิชาการไทยที่รักและเคารพในสถาบันและความเป็นไทยเป็นที่สุดที่เกิดในยุคปัจจุบัน กับนางแอนนาคนที่มีชีวิตร่วมอยู่ในช่วงอดีตครั้งนั้นด้วย  จะให้เราเชื่อใคร

วันศุกร์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2556

สิงห์เฒ่า / Family - Ties of Blood (2006)


สิงห์เฒ่า / Family - Ties of Blood (2006)
บทภพยนตร์...Tigmanshu Dhulia-Rajkumar Santoshi-Rajat Arora-Shridhar Raghavan/ดนตรีประกอบ...Ram Sampath/ถ่ายภาพ... Ashok Mehta/ลำดับภาพ...Shyam Salgonkar/ผู้อำนวยการสร้าง...Keshu Ramsay/ผู้กำกับภาพยนตร์...Rajkumar Santoshi
ดารานำแสดง...Amitabh Bachchan-Akshay Kumar-Aryeman Ramsay

              สหาย (Amitabh Bachchan) เป็นผู้ทรงอิทธิพลไปทั่วประเทศอินเดีย   อาบี้ (Sushant Singh)  ลูกชายของเขาจึงเลวนิสัยเสียเพราะเชื่อว่าเขาสามารถทำอะไรได้เนื่องจากอำนาจของบิดาของเขา   เมื่อข่าน (Kader  Khan) ศัตรูของสหายเล่นงานอาบี้  สหายจึงต้องไปแก้แค้นฆ่าเช็คก้าตายไป ร้อนถึงบาเทีย(Akshay Kumar) น้องชายเช็คก้ากับเพื่อนหกคนร่วมกันจับคนในครอบครัวของสหายไปเป็นตัวประกันให้สหายยอมจำนนต่อพวกเขา  แล้วยอมมอบตัวกับตำรวจ  แต่เจ้าพ่ออย่าง วิเรนดรา สหายมีหรือจะโดนลูบคมง่ายๆ


            ภาพยนตร์บอลีวู๊ดแนวแอ๊คชั่น  ได้ดารารุ่นเก๋า อมิตาบ  บาจันมานำแสดง  เนื้อหาก็นำเสนอเบื้องลึกเบื้องหลังของคนนอกกฎหมายผู้ยิ่งใหญ่  ที่ชีวิตเหมือนยืนอยู่บนปากเหวจะตกลงไปแหลกเหลวเมื่อไหร่ก็ไม่รู้   การขึ้นขี่หลังเสือว่ายากหนักหนาแต่การลงจากหลังเสือนั้นยากยิ่งกว่านัก  โบราณว่าไว้ได้ถูกต้องและเป็นความจริงที่สุด

คุณ อมิตาบ บาจัน

            มีบางช่วงที่ทีมงานยกกองถ่ายทำมาถ่ายทำที่ประเทศไทย  ในกรุงเทพฯ  ที่อาคาร All Season แถวๆถนนวิทยุ เป็นฉากที่กลุ่มเจ้าพ่อถูกศัตรูมาซุ่มรุมยิงกระจาย  มีไล่ยิงกันออกมานอกถนน  ส่วนอีกฉากไม่กล้าฟันธงแต่คุ้นๆคือฉากไล่ยิงกันที่โรงภาพยนตร์ I-MAX





โลเกชั่น-ตึก ออล ซีซั่น ถ.วิทยุ กรุงเทพฯ ประเทศไทย


            นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า...ให้ทุกข์แก่ท่านทุกนั้นถึงตัว    จุดจบของเจาพ่อและคนนอกกฎหมายทั้งหลายนั้น  ไม่ตาย ก็ ติดคุก  หรือทั้งตายและติด  เอ๊ะ..ยังงัย

วันพฤหัสบดีที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2556

มหัศจรรย์รักกับสิ่งเล็กๆ / Suddenly It's Magic (2012)


มหัศจรรย์รักกับสิ่งเล็กๆ / Suddenly It's Magic (2012)
บทภาพยนตร์...Vanessa R. Valdez/ดนตรีประกอบ...Teresa Barrozo/ถ่ายภาพ...Marcial Tarnate III/ลำดับภาพ...Marya Ignacio/กำกับศิลป์...Roger Mallari-Rafael Mari/ผู้อำนวยการสร้าง...M.L. Jaroondet Voravan-Kara Kintanar-Karnpich cha Pongkullapat/ผู้กำกับภาพยนตร์...Rory B. Quintos-นุกูล สุขถาวร
ดารานำแสดง...Mario Maurer-Erich Gonzales-Joross Gamboa

              ความล้มเหลวของภาพยนตร์ 2 เรื่องล่าสุดที่ไม่มี ศริริต้า (ใบเฟิร์น) เล่นด้วย ทำให้ในที่สุดการประกบกันของอดีตคู่รักคู่หวาน ศรีริต้าและมาคัส (มาริโอ้) จำเป็นต้องเกิดขึ้น แม้มาคัสจะเป็นทุกข์ใจกับการกลับมาใกล้ชิดกันของพวกเขา    มาคัสถ่ายทำภาพยนตร์จนจบเรื่องก่อนจะตัดสินใจหนีไปพักร้อนที่ฟิลิปปินส์อย่างเงียบเชียบที่สุด    ที่รีสอร์ทมาคัสได้พบโจอี้ (อีริค) เจ้าของร้านเบเกอรี่   เขาก็เริ่มรู้สึกประทับใจในตัวโจอี้ จึงขอให้เธอช่วยเป็นไกด์นำเที่ยวในฐานะเจ้าถิ่น นั่นเองทำให้ทั้งคู่เกิดความรู้สึกที่ดีต่อกันอย่างรวดเร็ว ในที่สุดมันก็กลายเป็นรักต่างเชื้อชาติ    ซึ่งแม้เมื่อถึงกำหนดต้องเดินทางกลับแล้ว มาคัสกลับพบว่าสิ่งที่เขาต้องการที่สุดในชีวิตอยู่ที่ฟิลิปปินส์นี่เอง    มาคัสตัดสินใจพาโจอี้ไปเมืองไทยกับเขาด้วย   แต่สิ่งที่โจอี้พบที่เมืองไทยคือมาคัสคือซุปเปอร์สตาร์ที่แฟนหนังคลั่งไคล้ นอกจากศรีริต้าแล้วทุกคนไม่ยอมรับผู้หญิงหน้าไหนทั้งสิ้น   การมาของโจอี้กำลังจะทำให้อาชีพดาราของมาคัสจบลง  แล้วความฝันของมารดาของมาคัส(อาภาศิริ) ที่หวังจะให้ลูกชายก้าวไกลถึงฮอลีวู๊ดก็จบลงด้วย   ท้ายที่สุดโจอี้จะตัดสินใจอย่างไร  จะกลับบ้าน เพื่อให้มาคัสได้มีอนาคตอันสดใส  ยาวไกล หรือตัดสินใจตามหัวใจเรียกร้อง


            ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นภาพยนตร์ลูกครึ่งฟิลิปปินส์กับประเทศไทย  ประเทศไหนเป็นพ่อ  ประเทศไหนเป็นแม่ อันนี้ไม่ทราบจริงๆ  เป็นภาพยนตร์แนวรักโรแมนติกผสมดราม่า รักไม่มีพรหมแดน  รักไม่มีศาสนา....รักข้ามขอบฟ้า  รักข้ามแผ่นดิน  ถ้าความรักดิ้น  สิ้นความห่างไกล....ประมาณนั้นเลย

Mario Maurer-Erich Gonzales-พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์

            อันเนื่องมาจาก มาริโอ เมาเล่อร์พระเอกวัยรุ่นรูปร่างหน้าตาดี  หล่อมาก มีแฟนคลับแถวๆสิงคโปร์  ฟิลิปปินส์เยอะพอสมควร  โดยเฉพาะจากเรื่อง “สิ่งเล็กๆที่เรียกว่ารัก” ผู้สร้างจึงเลือกให้มารับบทนำเรื่องนี้ โดยยังแอบหอบหิ้ว ใบเฟิร์นมาร่วมงานอีกคน  ชื่อภาษาไทยของภาพยนตร์จึงมีคำว่า สิ่งเล็กๆ ห้อยต่องแต่งติดมาด้วย

โลเกชั่น-ฟิลิปปินส์


โลเกชั่น-ประเทศไทย


คุณ มาริโอ  เมาเลอร์

คุณ พิมพ์ชนก  ลือวิเศษไพบูลย์

คุณ มาริโอ เมาเลอร์ กับ คุณ พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์


คุณ มาริโอ เมาเลอร์ กับ คุณ อีริค  กอนซาเรซ


คุณ อาภาศิริ  นิติพน จันทร์รัศมี


คุณ ไมเคิล  เชาวนาศัย กับ คุณ มาริโอ เมาเลอร์

            ครอบครัวคนไทย ไม่เคยใจร้ายใจดำ  ดังจะเห็นจากนิยายนิตาหลายพันเรื่องที่เขียนกันขึ้นมาแล้วสร้างเป็นภาพยนตร์บ้างละครบ้าง  เจ้าคุณปู่คุณย่าเกลียดลูกนอกคอกไปมีผัวมีเมียบ้านนอกตัดสวาทขาดอีโต้  สิ้นอีโม้ขาดอีเหน็บสุดท้ายก่อนตายก็เขียนพินัยกรรมให้หลานซึ่งเป็นลูกของลูกสาวลูกชายนอกคอกเหล่านั้นเป็นการไถ่บาป ทุกทีสิเอ้า...เพราะฉะนั้นแม่ในเรื่องนี้ก็คงต้องปล่อยให้ลูกชายเลือกทางเดินเอาเอง  เพราะไม่มีแม่คนไหนทนเห็นลูกมีความทุกข์อยู่ได้ทั้งชีวิต... มีคนบอกว่า “แม่ไม่ใช่ยาคูลท์  รีบกตัญญูเสียก่อนจะหมดอายุ”

           วันนี้ คุณบอกรักแม่แล้วหรือยัง

วันพุธที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2556

หยุดหัวใจ ไว้รอเธอ / The Leap Years ( 2008 )



หยุดหัวใจ ไว้รอเธอThe Leap Years ( 2008 )    
บทภาพยนตร์...Fina Torres-George Walker Torres/ถ่ายภาพ... Henry Chung/ผู้อำนวยการสร้าง...Pui Yin Chan-Saw Yam Seah-Pedro Tan/ผู้กำกับภาพยนตร์...Jean Yeo
ดารานำแสดง...Joan Chen-Ananda Everingham    

                      ลีแอนเติบโตมาเป็นครูสอนวรรณคดีผู้โรแมนติคและเพ้อฝัน เธอเชื่อมั่นว่า ผู้ชายในชุดสีฟ้าที่เห็นรางๆในความฝันนั้นคือคู่แท้ที่จะมาเติมเต็มวิญญาณอีกครึ่งหนึ่ง และในวันเกิดครบรอบ 24 ปี ลีแอนจาง (โจน เชน) ก็ได้พบกับ เจเรมี่ (อนันดา เอเวอริ่งแฮม) ที่นั่งอยู่ในร้านกาแฟเธอถือโอกาสเขียนกลอนชวนเจเรมี่ออกเดทและเดทแรกของพวกเขาที่ไชน่าทาวน์งดงามและตราตรึง  ด้วยความรู้สึกที่ก้ำกึ่งระหว่างคนแปลกหน้าและคู่แท้   ทั้งคู่ได้สานสัมพันธ์กันอย่างแน่นแฟ้น ตลอดระยะเวลาหลายปี  จนกระทั่ง เจเรมี่จะต้องบินกลับบ้านที่แคนาดา  ซึ่ง เขาให้คำมั่นสัญญากับลีแอนว่าจะมาพบเธอทุกๆวันที่ 29 กุมภาพันธ์ ที่เก่า เวลาเดิม ซึ่งหมายความว่าแต่นี้ไปพวกเขาจะได้พบกันเพียง 4 ปีต่อ 1 ครั้งเท่านั้น   แต่โชคชะตาก็เล่นตลกให้ทั้งคู่ไม่ได้พบกัน เมื่อถึงวันที่ 29 กุมภาพันธ์    หลังจากผิดหวังหลายครั้งจนท้อ ลีแอนก็ตัดสินใจฝังอดีตแสนหวานและตกลงแต่งงานกับ เรย์มอนด์ (เจสัน ชาน) ชายหนุ่มที่เข้ามาในชีวิตเธอช่วง 4 ปีหลังสุด    สุดท้าย ในงานแต่งงานของลีแอนที่จัดขึ้นวันที่ 29 กุมภาพันธ์ โชคชะตาก็เล่นตลกอีกครั้ง เมื่อลีแอนได้รับจดหมายรักจากเจเรมี่ ฉบับเดียวที่ถึงมือเธอในรอบหลายปี หรือจดหมายฉบับนี้จะเป็นกุญแจไขความรักอันทรมานของพวกเขา?



                      ภาพยนตร์จากสิงคโปร์แนวรักโรแมนติก-ดราม่า  เริ่มเรื่องจากวันเกิดครบรอบ 48 ปีของ ลีแอน จาง (โจน เชน) ที่กลายเป็นนักเขียนนิยายรักสาวใหญ่ผู้เชื่อมั่นในรักแท้ เธอไปเยี่ยม เจเรมี่ สามีที่นอนโคม่าอยู่ในโรงพยาบาลมานานกว่า 6 เดือน ขณะที่ ดีแลน ลูกสาววัยรุ่นของเธอก็ห่างเหินออกไปทุกที จากความไม่เข้าใจกันลีแอนสวดมนต์อ้อนวอนขอปาฏิหาริย์ให้สามีหายป่วย เพราะเธอยังเชื่อมั่นในคำสัญญาที่เจเรมี่ให้ไว้เมื่อ 24 ปีก่อนว่าเขาจะกลับมาหาเธอทุกๆวันที่ 29 กุมภาพันธ์    ขณะมองดูเจเรมี่ในสภาพโคม่า ความทรงจำแสนหวานในวันเก่าก็กลับมา….

Ananda Everingham-Joan Chen

                    เนื้อหาเล่นกับวันที่29 กุมภาพันธ์เพราะ4ปีมีครั้งเดียวตามปีอธิกสุรทิน(ตามชื่อเรื่อง)  บางคนเชื่อว่ามักจะเกิดปาฏิหาริย์บางอย่าง   ภาพยนตร์เรื่องนี้เหมือนเป็นการเอาภาพยนตร์สองเรื่องของพระเอก อนันดา  เอฟเวอริงแฮมมาผสมรวมกันคือ สบายดีหลวงพระบาง  กับ แฮปปี้เบิร์ดเดย์   เพราะช่วงที่เริ่มต้นเรื่องก็เหมือนกับฉากที่อนันดาไปนั่งเฝ้าแฟนที่โดนรถชนแล้วกลายเป็นเจ้าหญิงนิทราในเรื่องแฮปปี้เบิร์ดเดย์เพียงสลับบทมาเป็นตัวพระเอก อนันดาเองที่กลายเป็นเจ้าชายนิทราแทน  ส่วนช่วงที่นึกไปในย้อนอดีตนั้นก็ประมาณสบายดีหลวงพระบางประมาณนั้นเลย  เมื่อมีอนันดาเป็นพระเอกเราก็ต้องเอามาเชียร์กัน


ค่ำคืนในสิงคโปร์



คุณ อนันดา  เอฟเวอริงแฮม

                    บอกแล้วงัย ว่าโชคชะตาไม่ได้นามสกุล เชิญยิ้ม จึงเล่นตลกไม่ได้  แต่เพราะฟ้าลิขิตไว้แล้วเกี่ยวกับเรื่องคู่แท้และศัตรูถาวร  ที่กี่ชาติกี่ชาติก็ต้องมาพัวพันเจอะเจอกันตลอดไป  คู่แท้อาจไม่ได้เกิดเป็นคนรักของเราอย่างเดียว  อาจเกิดมาเป็นพ่อ เป็นแม่  เป็นพี่น้อง หรืออาจเป็นเพื่อน  ซึ่งไม่ว่าจะเกิดเป็นใครเขาก็จะรักเราเป็นที่สุด   ทำเพื่อเราได้ทุกอย่าง  ส่วนศัตรูถาวรก็เช่นกัน  เขาอาจเกิดมาเป็นคนรักเรา  พ่อแม่ พี่น้องเรา หรือเพื่อนของเราก็ได้ แต่ไม่ว่าจะเกิดมาเป็นใครเขาก็จะเกลียดเรา  ไม่ชอบขี้หน้าเราตลอดทั้งชีวิต   ทุกอย่างจึงขึ้นกับบาปบุญและกรรมที่ทุกคนกระทำ  ที่จะส่งผลให้ตนเองกับคู่แท้ได้เกิดมาพบเจอกันในฐานะคนรักกัน  ซึ่งในโลกนี้หาคู่แบบนี้ได้น้อยนัก


                “ ทุกวันนี้พ่อมีเพียงแต่ร่างกาย  ทุมคือลมหายใจของพ่อ  ถ้าชีวิตพ่อไม่มีทุม  พ่อจะอยู่ได้อย่างไร”....รอง  เค้ามูลคดี รายการที่นี่หมอชิต  ช่อง 7 สี ทีวีเพื่อคุณ