วันพฤหัสบดีที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ฟงอวิ๋น ขี่พายุทะลุฟ้า 2 / The Storm Warriors 2 (2009)


ฟงอวิ๋น ขี่พายุทะลุฟ้า 2  / The Storm Warriors 2 (2009)
บทภาพยนตร์...Wing-Shing Ma/ดนตรีประกอบ...Ronald Ng/ถ่ายภาพ...Decha Srimantra/ลำดับภาพ...Curran Pang / กำกับศิลป์... Ben Lau/ผู้อำนวยการสร้าง...Oxide Pang Chun-Danny Pang/ผู้กำกับภาพยนตร์...Oxide Pang Chun-Danny Pang
ดารานำแสดง...Simon Yam-Aaron Kwok-Ekin Cheng-Kenny Ho-Charlene Choi

                     เจวี่ยอู๋เซิน (เยิ่น ต๊ะหัว) ผู้ปกครองแคว้นอู๋ผู้แข็งแกร่ง ยกกองกำลังมารุกรานจงง้วน โดยมี เจวี่ยซิน (เซียะ ถิงฟง) บุตรชายเป็นผู้ช่วยกำจัดยอดฝีมือแห่งจงง้วนหมดสิ้น จนฮ่องเต้ (ถัน เหย้าเหวิน) ต้องยอมสยบแก่เขา แม้แต่จอมยุทธไร้นาม(เหย เจียจิ้ง) ก็ถูกจับตัวไป ปู้จิ้งอวิ๋น (กัว ฟูเฉิ่ง) เป็นห่วง ฉูฉู๋ (ถังเหยียน) จึงตามไปช่วย   จอมยุทธไร้นามประลองกำลังกับเจวี่ยอู๋เซิน ปรากฏว่าสู้ไม่ได้จึงพากันหนี    จอมยุทธไร้นามบอกว่ามีคนเดียวที่จะสู้เจวี่ยอู๋เซินได้นั่นคือ จอมมารอันดับหนึ่ง (เคนนี่ หว่อง) ผู้เป็นพี่ร่วมสาบานของ เจ้าสุกร (หลินเซี๊ยะ) ทั้งหมดจึงไปยังถ้ำของจอมมารอันดับหนึ่ง โดยคุกเข่าขอร้องโดยมี ตี้เอ้อม่ง (อาซา) ลูกสาวของจอมดาบอันดับสองมาร่วมขอร้องด้วย   จอมมารอันดับหนึ่งจึงทดสอบ เนี่ยฟง และ ปู้จิ้งอวิ๋น ปรากฏว่าเนี่ยฟงมีจิตใจที่อ่อนโยนกว่าจึงเลือกให้มาฝึกวิชามาร     ทางฝ่ายเจวี่ยอู๋เซินก็บีบบังคับฮ่องเต้ให้บอกที่ซ่อนของสุสานมังกร ซึ่งภายในบรรจุกระดูกมังกรซึ่งเป็นของสำคัญของแผ่นดินอยู่       ต่อมาทั้งเนี่ยฟงและปู้จิ้งอวิ๋นก็สามารถผนึกกำลังกันล้ม เจวี่ยอู๋เซินได้   แต่ทว่ากระดูกมังกรก็ตกอยู่ในมือของเจวี่ยซิน     เนี่ยฟงก็ถูกจิตมารเข้าครอบงำทำให้กลายเป็นปีศาจ ปู้จิ้งอวิ๋นจึงต้องหยุดยั้งเนี่ยฟง    ทั้งคู่ต่อสู้กันอย่างดุเดือด ท้ายที่สุดเนี่ยฟงก็ได้สติคืนมา แต่ฉูฉู่ก็ถูกเนี่ยฟงสังหารจนตาย และปู้จิ้งอวิ๋นก็ตกลงไปในหุบเหว


                  ผ่านมา 10 ปีจากภาคแรก  พี่น้องตระกูลแปง ก็หยิบเอาหนังสือการ์ตูนเรื่องดังมาสร้างต่อ  ก็พวกเขาเข้าขั้นเสือปืนไว  ไม่เคยหยุดสร้างภาพยนตร์  มีเรื่อง  มีพล็อตอยู่ในหัวมากมาย  หยิบจับมาสร้างเป็นภาพยนตร์เมื่อไหร่ก็ได้  มีทั้งดาราชุดเดิมและชุดใหม่เข้ามาเสริมทีมให้ดูอลังการงานสร้างสมกับทุนสร้าง 100 ล้านเหรียญฮ่องกง

Simon Yam-Aaron Kwok-Ekin Cheng-Kenny Ho
Charlene Choi

                     เพื่อไม่ให้งบบานปลาย  พวกเขาจึงมาถ่ายทำในประเทศไทย  ใช้ทีมงานไทยที่คุ้นเคยมานาน  อีกครั้ง  ซึ่งครั้งที่ผ่านๆมาพี่น้องแปงก็ไม่สนใจความสวยงามของกรุงเทพฯอยู่แล้ว  มาคราวนี้เรื่องนี้ยิ่งหนักหนา เพราะแกเลือกที่จะสร้างฉากถ่ายทำแบบบลูสกรีนในสามสตูดิโอใหญ่ย่านปากเกร็ด    เมื่อถ่ายเสร็จแล้วก็ส่งต่อให้ทีมเอฟเฟ็ค-วิชวลเอฟเฟ็คเอาไปละเลงกันให้มันมือมันเท้าไปเลยพะยะค่ะ


                                    โลเกชั่น-ประเทศไทย

                               ทีมงานไทยผสมฮ่องกง

                     ฉากต่างๆออกมาแนวการ์ตูนมากๆ  สมกับที่พวกเขาตั้งใจ  แต่ในฐานะคนดูภาพยนตร์ มันรู้สึกเป็นการแสดงแบบหลอกๆ  ภาพแอ๊คชั่นอาจมีท่วงท่า ลีลาที่งดงาม  แต่มันควรมีความดุดัน  น่าเกรงขามด้วย  ภาพยนตร์แนวจอมยุทธท่าสวยนั้นเท่ห์ดีอยู่แล้ว   แต่มันสวยจนกลายเป็นนิ่มเกินไปจนคนไม่อยากดู...มันก็เลยทำให้น่วมไปตามๆกัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น