ทุ่งสังหาร
/ / The
Killing Fields (1984)
บทภาพยนตร์...Bruce Robinson / ดนตรีประกอบ...Mike Oldfield / ถ่ายภาพ...Chris Menges / ลำดับภาพ...Jim Clark / ออกแบบงานสร้าง...Roy Walker / กำกับศิลป์...Judy Moorcroft / แต่งหน้า-ทำผม...Yvonne
Coppard&Ken Lintott&Chris Talor&James Keeler /อำนวยการสร้าง...David Pattnam / กำกับภาพยนตร์...Roland Joffe
ดารานำแสดง...Sam Waterston-Johm
Malkovich-Julian Sands-Haing S. Ngor
สงครามเวียดนาม
รุกลามมาถึงชายแดนเขมร ปี 1973 ซิดนี่ย์
เชนเบิร์ก(Sam
Waterston)นักหนังสือพิมพ์ของนิวยอร์กไทม์กับผู้ช่วยดิธปราณ(Haing S. Ngor)ชาวเขมรกับเพื่อนนักข่าวอัล(John Malkovich) และเสวน(Julian Sands)ไปทำข่าวเมืองเนี๊ยกถูกระเบิดถล่มพบว่าประชาชนบริสุทธ์ตายเพียบ
แต่กลับมีข่าวลวงโลกออกมาว่าคนตายไม่เท่าไหร่ ความเสียหายเล็กน้อย
ปี 1975 เขมรแดงบุกรถถังเข้าเมืองประชาชนชาวกัมพูชา โห่ร้องดีใจสงครามไม่เกิดแล้ว สงครามไม่เกิดแล้วรวมทั้งดิธปราณออกไปตะโกนกับเขาด้วยแต่มันไม่ใช่ ดิธปราณกับเพื่อนนักข่าวต่างประเทศกลับถูกจับตัวไปฆ่าทิ้ง ดิธปราณใช้ไหวพริบให้ทหารเอานาฬิกาข้อมือพร้อมแผ่นตราโลโกรถยนต์ยี่ห้อเมอสิเดสเบนซ์ให้พวกทหารเวียตกงไปเลยรอดตายหวุดหวิด ซิดนี่ย์เห็นท่าไม่ดีทำเรื่องลี้ภัยให้ครอบครัวดิธปราณไปอเมริกาแต่ดิธปราณขออยู่ช่วยซิดนี่ย์จนเหตุการณ์รุนแรงอยู่ไม่ได้จริงๆ นักข่าวต่างประเทศและประชาชนชาวเขมร นักท่องเที่ยวต่างชาติหรือคนต่างชาติที่ทำมาหากินในเขมรต่างหลบเข้าไปในสถานฑูตอเมริกาเตรียมลี้ภัยกันแน่นจนพวกเขมรแดงขู่ให้คนเขมรออกไป อัลปลอมพาสปอร์ตให้ดิธปราณไม่สำเร็จดิธปราณจึงถูกเขมรแดงจับตัวไป ดิธปราณถูกใช้ทำนา ถูกล้างสมองมีเด็กตัวเล็กๆถือปืนเป็นผู้คุม เมื่อมีโอกาสดิธปราณก็หนีออกมาเขาเดินผ่านทุ่งสังหารที่มีซากศพมากมาย ดิธปราณหนีไปเจอผู้นำเขมรอีกฝ่ายตัวผู้นำฝากลูกชายให้ ดิธปราณพาหนีไปด้วยโดยให้เงินและแผนที่เดนทางพร้อมให้ลูกน้องร่วมเดินทางไปด้วย3-4 คน ดิธปราณหนีไปจนถึงชายแดนไทย
ปี 1975 เขมรแดงบุกรถถังเข้าเมืองประชาชนชาวกัมพูชา โห่ร้องดีใจสงครามไม่เกิดแล้ว สงครามไม่เกิดแล้วรวมทั้งดิธปราณออกไปตะโกนกับเขาด้วยแต่มันไม่ใช่ ดิธปราณกับเพื่อนนักข่าวต่างประเทศกลับถูกจับตัวไปฆ่าทิ้ง ดิธปราณใช้ไหวพริบให้ทหารเอานาฬิกาข้อมือพร้อมแผ่นตราโลโกรถยนต์ยี่ห้อเมอสิเดสเบนซ์ให้พวกทหารเวียตกงไปเลยรอดตายหวุดหวิด ซิดนี่ย์เห็นท่าไม่ดีทำเรื่องลี้ภัยให้ครอบครัวดิธปราณไปอเมริกาแต่ดิธปราณขออยู่ช่วยซิดนี่ย์จนเหตุการณ์รุนแรงอยู่ไม่ได้จริงๆ นักข่าวต่างประเทศและประชาชนชาวเขมร นักท่องเที่ยวต่างชาติหรือคนต่างชาติที่ทำมาหากินในเขมรต่างหลบเข้าไปในสถานฑูตอเมริกาเตรียมลี้ภัยกันแน่นจนพวกเขมรแดงขู่ให้คนเขมรออกไป อัลปลอมพาสปอร์ตให้ดิธปราณไม่สำเร็จดิธปราณจึงถูกเขมรแดงจับตัวไป ดิธปราณถูกใช้ทำนา ถูกล้างสมองมีเด็กตัวเล็กๆถือปืนเป็นผู้คุม เมื่อมีโอกาสดิธปราณก็หนีออกมาเขาเดินผ่านทุ่งสังหารที่มีซากศพมากมาย ดิธปราณหนีไปเจอผู้นำเขมรอีกฝ่ายตัวผู้นำฝากลูกชายให้ ดิธปราณพาหนีไปด้วยโดยให้เงินและแผนที่เดนทางพร้อมให้ลูกน้องร่วมเดินทางไปด้วย3-4 คน ดิธปราณหนีไปจนถึงชายแดนไทย
ปี 1976 ซิดนี่ย์อยู่อเมริการับรางวัลนักข่าวยอดเยี่ยม
เขามอบรางวัลให้ดิธปราณด้วย เมื่อมีข่าวว่าดิธปราณมาอยู่ที่ค่ายผู้อพยพที่ชายแดนไทยซิดนี่ย์ก็รีบมารับดิธปราณทันที
ที่อเมริกานั้นดิธปราณทำงานเป็นนักข่าวที่สำนักพิมพ์นิวยอร์กไทม์และซิดนี่ย์เป็นคอลัมนิตย์
ภาพยนตร์แนวดราม่า ที่มีฉากสงครามเป็นพื้นหลัง
เป็นภาพยนตร์ที่อ้างอิงจากเรื่องจริงในช่วงเขมรกำลังล่มสลาย เนื้อหาที่นำเสนอส่วนหนึ่งว่าด้วยเรื่องของการแบ่งพรรคแบ่งพวกของผู้นำเขมรที่มีพวกขวาจัดกับพวกซ้ายจัดช่วงชิงอำนาจกันระหว่างลัทธิสังคมนิยมและประชาธิปไตยก่อสงครามกลางเมืองจนมีประชาชนล้มตายนับล้านคน
อีกด้านหนึ่งว่าถึงความสัมพันธ์ของนักข่าวสองคน(หรือสี่คนก็ได้)
ที่ต้องร่วมเป็นร่วมตายกันทำข่าวท่ามกลางสงครามล้างเผ่าพันธุ์ ภาพยนตร์เรื่องนี้มีดาราดังร่วมแสดงหลายท่านมีแซม
วอเตอร์สตัน จอห์น มัลโควิค จูเลี่ยน แซนด์ และเฮง เอส งอห์
Sam Waterston-John
Malkovich-Julian Sands-Hiang S. Ngor
ซิดนี่ย์ กับ ดิธ
ปราณ ร่วมเผชิญหน้ากับความตาย
ภาพยนตร์มาถ่ายในประเทศไทยที่สะพานข้ามแม่น้ำแควกาญจนบุรี
ที่โรงแรมรถไฟหัวหินจังหวัดประจวบคีรีขันต์
ฉากทุ่งสังหารสร้างฉากถ่ายทำที่หาดบางเตาจังหวัดภูเก็ต จากนั้นก็มีถ่ายทำในพัฒน์พงษ์กรุงเทพฯ ทีมงานสร้างของไทยมีบริษัทซานต้าฟีล์มร่วมงานสร้างโดยมีคุณสันต์
เปสตันยีรับหน้าที่เป็นโปรดักส์ชั่นเอ็กซคลูซีฟ มีคุณสมพล สังขะเวสทำหน้าที่ผู้ช่วยผู้กำกับฯ ดาราไทยไม่มีที่คุ้นหน้าคุ้นตาเลยสักคน
มีตัวประกอบสองสามร้อยคนที่สถานทูตอเมริกาจัดหามาให้
ภาพตัวอย่างจากภาพยนตร์
เป็นตัวอย่างให้เห็นว่าประเทศที่ไม่รู้จักรักสามัคคี
แย่งกันเป็นใหญ่เป็นโต ชักน้ำเข้าลึกชักศึกเข้าบ้าน
แล้วไอ้ศึกที่ชักเข้ามามันก็เหี้ยมพอที่จะฆ่าล้างเผ่าพันธุ์เพื่อนร่วมชาติให้ตายสิ้นจนหัวกะโหลกท่วมแผ่นดินแม่ผู้ให้กำเนิดโดยไม่มีใครหน้าไหนแอ่นอกออกมารับผิดชอบสักคน เพราะไอ้พวกผู้ก่อการทั้งหลายที่ต้องรับผิดต่างพากันตายหนีความผิดไปหมดแล้ว
เพิ่มหัวกะโหลกไว้ให้ลูกหลานดูเล่นอีกสามสี่หัว แค่นั้นไม่เห็นมีใครอยู่ค้ำฟ้าสักคน
ประเทศไทยเราอยู่ใกล้ชิดติดเหตุการณ์มาตลอด ก็ให้ดูไว้เป็นตัวอย่าง จำไว้เป็นบทเรียน อยู่ใกล้เกลือแต่ดันไปกินด่าง...ถือว่าโง่ดักดาน
โง่บรมโง่ เลยทีเดียวนะ
อยากดูครับ
ตอบลบอยากดูเรื่องนี้มากเลยค่ะ
ตอบลบ