วันจันทร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

คนดิบแดนเถื่อน / Man from deep river (1972)



คนดิบแดนเถื่อน / Man from deep river (1972)
บทภาพยนตร์...Francesco Barilli&Massimo D’Avak /ดนตรีประกอบ...Daniele Patucchi /ถ่ายภาพ...Riccardo Pallottini /ลำดับภาพ...Eugenio Alabiso / ออกแบบเสื้อผ้า...Ettora Marotti / อำนวยการสร้าง...Giorgio Carlo Rossi&Ovidio G. Assonitis / ผู้กำกับภาพยนตร์...Umberto Lenz
ดารานำแสดง...Ivan Rassimov-Me Me Lay-สุลาลีวัลย์ สุวรรณทัต-หม่อมประสิทธิ์ศักดิ์ สิงหรา-พิภพ ภู่ภิญโญ-แป้น ปลื้มสระไชย-โป๋ เป่าปี่-แป๊ะอ้วน-โขน ศักดิ์สิทธิ์-ทวน เทวัญ
                           จอห์น แบรดลี่ย์ (Ivan Rassimov) ตากล้องอิสระเดินทางมาท่องเที่ยวกรุงเทพฯเพื่อถ่ายรูปสถานที่สวยงามและสถานที่สำคัญๆของประเทศไทย  วันหนึ่งเขามีเรื่องชกต่อยกับนักเลงเจ้าถิ่นแล้วพลั้งมือฆ่ามันตาย   แบรดลี่ย์จึงตัดสินใจว่าจ้างไกค์ให้พาล่องเรือขึ้นไปทางเหนือ  ในระหว่างทางเขาถูกพวกคนป่าเผ่าหนึ่งจับตัวไปเป็นเชลย แต่โชคดีที่มาลายา(Me Me Lay)ลูกสาวหัวหน้าเผ่ามารักชอบเขาจนได้แต่งงานกันเขาจึงกลายเป็นสมาชิกของคนป่าเผ่านี้ไปโดยปริยาย ไม่นานนักมาลายา ก็ท้องและคลอดลูกแต่เธอต้องตาบอดและเสียชีวิตในที่สุด  แบรดลี่ย์เสียใจมากและกำลังตัดสินใจจะอยู่ในป่าต่อไปหรือจะกลับบ้านเกิดก็พอดีเกิดมีเรื่องที่เขาต้องอยู่ช่วยคนป่าเผ่านี้ขึ้นมาอีกนั่นคือมีคนป่าดุร้ายอีกกลุ่มหนึ่งบุกเข้ามารุกรานฆ่าคนในเผ่าและพวกนี้...เป็นพวกมนุษย์กินคน  อีกด้วย

                       ภาพยนตร์อยู่ในแนวผจญภัยในแดนเถื่อนที่มีทั้ง   ตื่นเต้น สยองขวัญสั่นประสาท พระราชวัง คอนโดมีเนี่ยมกันทั้งเรื่อง  เป็นเรื่องของการอยู่ผิดที่ผิดทางของช่างภาพชายชาวฝรั่งเศสคนหนึ่งที่พกพาเอาความโชคร้ายหรือดวงซวยมาเต็มกระเป๋า  โดยมี Ivan Rassimov กับ Me Me Lay เป็นดารานำแสดง

Ivan Rassimov และ Me Me Lay ดารานำแสดง

                              เนื้อหาของภาพยนตร์นำเสนอเรื่องราวของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ดันมามีเรื่องและฆ่าคนตายในประเทศไทยแล้วก็ตัดสินใจผิดที่คิดจะหลบหนีไปง่ายๆ  ก็คนมันดวงตกซะแล้ว ยิ่งหนีมันก็ยิ่งเจอเรื่องร้ายๆหนักเข้าไปใหญ่
                             ภาพยนตร์เรื่องนี้เลือกที่จะยกทีมงานสร้างเข้ามาถ่ายทำในประเทศไทยซึ่งตั้งแต่เริ่มเรื่องก็เป็นภาพของกรุงเทพฯล้วนๆ วัดวาอารามต่างๆ  การชกมวยไทย  จากนั้นจึงออกไปต่างจังหวัดหาโลเกชั่นดิบๆสมมุติเป็นหมู่บ้านคนป่าที่ดุร้าย โหดเหี้ยม  เรื่องนี้มีดาราสมทบของไทยร่วมแสดงฝีมืออยู่ด้วย มีคุณป้าสุลาลีวัลย์ สุวรรณทัตรับบทเป็นคนดูแลนางเอก   หม่อมประสิทธิ์ศักดิ์ สิงหรารับบทเป็นคนป่าหัวหน้าเผ่า   คุณพิภพ ภู่ภิญโญและคุณทวน เทวัญรับบทเป็นคนป่าสมาชิกเผ่า    คุณโขน ศักดิ์สิทธิ์รับบทเป็นคนหาเรือมาให้พระเอก    คุณโป๋ เป่าปี่รับบทคนขายของในบริเวณวัด   คุณแป๊ะอ้วนรับบทเป็นคล้ายๆหมอผี    คุณแป้น ปลื้มสระไชยรับบทเป็นนักเลงท้องถิ่นที่ถูกพระเอกฆ่าตายตอนต้นเรื่อง

(ซ้าย) แป้น ปลื้มสระไชย / (ขวา) โขน ศักดิ์สิทธิ์-เข้าฉากกับ Ivan Rassimov

สุลาลีวัลย์ สุวรรณทัต -ร่วมแสดง

(ซ้าย) หม่อมประสิทธิ์ศักดิ์ สิงหรา / (ขวา) มิมิ เหล่ย สุลาลีวัลย์ สุวรรณทัต

แป๊ะอ้วน / โป๋  เป่าปี่

(ซ้าย) พิภพ ภู่ภิญโญ / (ขวา) ทวน เทวัญ

                   แม้ว่าการดำเนินเรื่องจะเน้นหนักไปทางฉากเสียวสยองแต่ภาพที่เห็นบนจอดูเหมือนจะไม่ค่อยเป็นใจเท่าไรเพราะดูไม่มีบรรยากาศดิบๆเถื่อนๆให้เห็นเลย ทั้งทำเลที่คนป่าเผ่านี้ตั้งบ้านเรือนอยู่ก็ดูเจริญเจริญ  ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ ปลูกผักสวนครัวกินเองได้ สมาชิกเผ่าก็เหมือนคนธรรมดาทั่วไปแค่บางคนเอาสีมาทาหน้าเท่านั้นเอง  เรื่องแบบนี้มันน่าจะใช้โลเกชั่นกลางป่าแบบอะเมซอนมากกว่า
                         และที่ไม่เข้าใจเอามากๆก็คือการที่ให้นางเอกเข้าพิธีเลือกคู่นั้นไม่ทราบว่ามีทำไม ก็ในเมื่อนางเอกรักพระเอกก็ทำพิธีแต่งงานไปเลย  แม้ว่าไอ้หมอผีตัวร้ายคัดค้านก็ให้มันสู้ตัวต่อตัวกับพระเอกไปซีใครชนะก็ได้นางเอกไป  นี่เล่นจัดพิธีให้นางเอกเลือกคู่โดยให้นางเอกนั่งแก้ผ้าอยู่ในกระท่อม ข้างฝามีรูเจาะไว้ ให้พวกผู้ชายเดินเรียงแถวเอามือล้วงเข้าไปลูบคลำเรือนร่างนางเอกทีละคน ๆนางเอกชอบใจใคร จะตกลงแต่งงานด้วยก็เอาพวงมาลัยคล้องมือให้ไป


โถ!...พี่น้อง ก็นางเอกนั้นรักชอบกับพระเอกอยู่แหงมๆ ยังไงๆ ก็ต้องเลือกพระเอกอยู่ดี นอกจากจะเสียเวลาทำมาหากินแล้วยังน่าสงสารนางเอกอีก เพราะกว่าจะถึงคิวเจ้าเงาะ น้องรจนาก็ผ่านมือชายเป็นสิบๆมือ อะไรต่อมิอะไรคงเหลวเหมือนแป้งทำขนมจีนไปแล้ว มั๊ง!

                              ภาพยนตร์ทิ้งท้ายไว้ว่ามีพวกเผ่ามนุษย์กินคนออกอาละวาดฆ่าคนในหมู่บ้าน...นั่นแสดงว่าจะต้องมีภาพยนตร์ประเภท cannibal ต่างๆสร้างตามมาแน่ๆ   ถ้าเป็นเช่นนั้น ต้นกำเนิดไอ้ภาพยนตร์มนุษย์กินคนนี่มันเริ่มมาจากบ้านเราเอง..ละสิท่า
                             โอวว...พระเจ้าช่วย กล้วยทอด!

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น