วันจันทร์ที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

มึงกับกู / MW (2009)



มึงกับกู / MW (2009)
บทภาพยนตร์... Tetsuya Oishi-Shinzô Matsuhashi / ดนตรีประกอบ... Yoshihiro Ike / ถ่ายภาพ... Takuro Ishizaka-Nobuhiro Sako / ลำดับภาพ... Masashi Asahara / ผู้อำนวยการสร้าง... Shinzô Matsuhashi / ผู้กำกับภาพยนตร์... Hitoshi Iwamoto        
ดารานำแสดง... Hiroshi Tamaki-Takayuki Yamada-Kazuaki Hankai-Ryo Ishibashi

                        สารเคมีเมกะวัตต์(MW) ทำลายล้างและฆ่าหมู่คนบนเกาะแห่งหนึ่งเหลือรอดมาได้แค่เด็กสองคน  มิชิโอะ ยูกิ(Hiroshi Tamaki)     เมื่อเติบใหญ่ได้ทำงานธนาคารแต่ในใจกลับมีความคิดที่จะล้างแค้นผู้รับผิดชอบการตายหมู่บนเกาะ  เขาจึงจับคนเหล่านั้นและครอบครัวมาเรียกค่าไถ่แล้วฆ่าทิ้ง จนสารวัตรซูวากิ (Ryo Ishibashi) เจ้าหน้าที่บ้านเมืองปวดหัวตึบ  ส่วนยูทาโร่ การาอิ (Takayuki Yamada) หันเข้าหาทางสงบจิตใจ พึ่งศาสนานำชีวิตบวชเป็นบาทหลวง  แต่เมื่อแผนร้ายของยูกิมาโยงใยมาถึงเขา  สองหนุ่มจึงถูกดึงมาเผชิญหน้ากัน  ในฐานะคนที่อยูตรงข้ามกัน


                        ภาพยนตร์ แอ๊คชั่น สะเทือนขวัญ หวั่นผวาจากญี่ปุ่น  เสนอเรื่องราวการสืบสวนสอบสวนแข่งกับเวลากับสถานการณ์ที่ผู้ร้ายควบคุมไว้อย่างเหนือชั้นกว่าตำรวจทุกอย่าง และผู้ร้ายก็เล่นแรงขึ้นเรื่อยๆ  ไม่รู้ว่าแค้นอะไรกันนักกันหนา แบบนี้เหยี่ยวเหลืองตายเลย ทุกฉากทุกตอนชวนให้ผู้ชมได้ลุ้นและคิดแก้ปัญหาไปกับฝ่ายตำรวจตลอดเวลาที่ชม   ชื่อเรื่องนอกจากจะย่อมาจากเมกะวัตต์แล้ว ยังแฝงความหมายไว้ว่า  คนที่อยู่คนละด้านกัน คือตัว M กับตัว W เขียนคล้ายกันแต่ตัวหนึ่งคว่ำอีกตัวหนึ่งหงาย

                         Takayuki Yamada-Hiroshi Tamaki-Ryo Ishibashi

                       ผู้สร้างยกทีมงานมาถ่ายทำที่ประเทศไทย  ในกรุงเทพฯ เมืองหลวงของประเทศไทย มีเซ็นทรัลเวิร์ล  ห้างสรรพสินค้าเซ็น โรงแรมรามาการ์เด้นท์  มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์  โรงแรมอเล็กซานเดอร์  อิมแพ็คเมืองทองธานี  บริษัทขนส่งมวลชนกรุงเทพฯ  เฟรเซอร์เพลสเออร์บาน่าหลังสวน





                             โลเกชั่น-กรุงเทพฯ  ประเทศไทย

                        มีดาราสมทบของไทยร่วมแสดงสมทบด้วยบ้างบางคน  ที่รู้จักก็มีคุณเคน สตรุทเกอร์ ดาราไทยหรือฝรั่งก็ไม่รู้ คุณ อั๋น-วิทยา วสุไกรไพศาล  คุณนพพันธ์ บุญใหญ่  คุณนอร์แมน วีระธรรม (เรื่องนี้ใช้ชื่อจริงนามสกุลจริงในเครดิตท้ายเรื่อง)

                    คุณอั๋น-วิทยา วสุไกรไพศาล

             (บน) คุณนพพันธ์ บุญใหญ่ / (ล่าง) คุณเคน สตรุทเกอร์

                     (บน) คุณนอร์แมน วีระธรรม / (ล่าง) จำชื่อไม่ได้

                               จำชื่อไม่ได้อีกแล้วครับท่าน

                     นิทานเรื่องนี้สอนให้...เราต้องยอมรับความเป็นไปของโลกในแต่ละยุคแต่ละสมัย  แม้ว่าเราจะไม่ได้ตั้งกฏเกณฑ์เอง เราก็ควรต้องยอมรับกฎกติกาของธรรมชาติที่มีอยู่ในขณะนั้นไม่ว่ามันจะเป็นความถูกต้องหรือไม่ถูกต้อง  เมื่อเวลาผ่านล่วงเลยมา  ทุกสิ่งทุกอย่างต้องคงอยู่อย่างที่มันเป็นมาแล้ว  คิดจะย้อนกลับไปแก้ไขบ้านเมืองมันคงจะวุ่นวาย ไม่สงบสุขบานปลาย   ในอดีตฝ่ายชนะสงครามก็ยึดแผ่นดินและขนเอาทรัพย์สินฝ่ายที่แพ้ไปเป็นของตนเอง  ผ่านมาจนถึงวันนี้เป็นร้อยปี พันปีมันกลายเป็นสมบัติและแผ่นดินของฝ่ายชนะไปแล้ว  ฝ่ายที่แพ้จะไปทวงสมบัติและแผ่นดินคืน  ทวงอะไร ทวงกับใคร  ความแค้นก็เหมือนกัน...คุณจะต้องฆ่าใครเพื่อเอาคืน   ทำกับคนไม่รู้อิโหน่อิเหน่ งั้นรึ  บ้าไปแล้ว   พระพุทธองค์ท่านจึงบอกว่า ให้รู้จักกล่าวคำว่า “ขอโทษ” และรู้จักการให้ “อภัย”
                    2 คำแค่นี้ พูดกันไม่เป็นรึไง  ทำไม่ต้องฆ่ากัน  ทำลายกัน  คนชั่วคนเลวยังมีไม่มากพอหรือไง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น