วันเสาร์ที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2556

แอร์อเมริกา / AIR AMERICA (1990)



แอร์อเมริกา / AIR AMERICA (1990)
บทภาพยนตร์...John Eskow&Richard Rush /ดนตรีประกอบ...Charles Gross /ถ่ายภาพ...Roger Derkins /ลำดับภาพ...John Bloom&Lois Freeman-Fox /ออกแบบงานสร้าง...Allan Cameron /กำกับศิลป์...ไชยัณห์ จันสุทธิวัฒน์ / ออกแบบเสื้อผ้า...John Mollo /อำนวยการสร้าง...Daniel Melnick /ผู้กำกับภาพยนตร์...Roger Spottiswoode
ดารานำแสดง...Mel Gibson-Robert Downey Jr.-Lane Smith-Nancy Travis-สินจัย หงษ์ไทย-ญาณี ตราโมท-วสันต์ อุตมะโยธิน-มีศักดิ์ นาครัตน์-ชนานา นุตาคม
                         บิลลี่(Robert Downey jr.) นักบินรายงานการจราจรบนถนนลาออกจากงานเก่ามาสมัครเป็นนักบินให้บริษัทแอร์อเมริกาที่ประเทศลาวได้คู่หูจอมเก๋าชื่อจีน(Mel Gibson)   จีนมีเบื้องหลังคือการแอบค้าขายอาวุธสงครามเก่าๆ    บิลลี่แอบเห็นร็อบ(David Marshall Grant)นายทหารของอเมริกาลักลอบร่วมมือผลิตยาเสพติดกับนายทหารของลาวแล้วทนไม่ได้จึงแอบเข้าไประเบิดโกดังผลิตยาเสพติดทิ้งคราวนี้บิลลี่จึงถูกตามเก็บโดยมีจีนร่วมชะตากรรมไปด้วยแต่โชคดีวุฒิสมาชิกดาเวนพอร์ต(Lane Smith)เดินทางมาลาวแล้วสอบสวนพบความจริงอย่างที่บิลลี่เจอจึงสั่งปิดแอร์อเมริกาเสียเลย   จีนตกงานพาเหมยลิง(สินจัย หงษ์ไทย)ภรรยามาอยู่เมืองไทยโชคดีถูกล็อตเตอรี่รางวัลที่หนึ่งติดต่อกัน2-3งวดส่วนบิลลี่ก็มาทำงานด้านคอมพิวเตอร์ที่เมืองไทยเช่นกันตอนหลังถูกเนรเทศออกไปจากเมืองไทยเพราะถูกจับได้ว่าล็อคเลขการออกล็อตเตอรี่


                       เป็นภาพยนตร์แนวตลกสนุกสนานที่มีฉากหลังเป็นสงคราม ภาพยนตร์นำเสนอสังคมคนอเมริกันกลุ่มหนึ่งซึ่งได้ไปปฏิบัติหน้าที่ในต่างแดนนานนาน อยู่ไกลหูไกลตาคนดูแล  คนกลุ่มนี้ต่างคนต่างทำหน้าที่ ไม่ก้าวก่ายต่อกันแม้จะเห็นว่าใครดีใครเลวใครจะชั่วยังไงก็เอาหูไปนาเอาตาไปไร่เอายายไปสวน  พวกเขาจึงอยู่กันมาอย่างสงบแต่เมื่อมีสมาชิกคนใหม่เข้ามาและไม่สามารถยอมรับและเข้าร่วมในวิถีชีวิตความเป็นอยู่แบบเดิมๆที่ผิดๆได้ มันจึงเกิดความขัดแย้งกันขึ้นและการแบ่งข้างแบ่งขั้วถูกผิดก็ตามมา  คนดีอยู่ข้างคนดีคนเลวอยู่ข้างคนเลว...ชัดเจน

Mel Gibson-Robert Downey Jr.-Nancy Travis-Lane Smith-David Marshall Grant-ดารานำแสดง

                  เป็นภาพยนตร์ลงทุนสูง ที่ยกกองถ่ายทำมาใช้บริการประเทศไทยบ้านเราทั้งจังหวัดเชียงใหม่โดยเฉพาะสนามบินเชียงใหม่เป็นสถานที่ถ่ายทำหลัก จังหวัดแม่ฮ่องสอน และทางใต้จังหวัดภูเก็ตโดยสมมุติเป็นประเทศลาว มีบริษัทซานต้าฟีล์มของคุณสันต์ เปสตันยีได้ร่วมงานสร้าง มีดาราไทยหลายท่านได้ร่วมแสดงคือคุณสินจัย หงส์ไทยรับบทเหมยหลิงภรรยาของยีนหรือเมล กิ๊บสัน  มีคุณญาณี ตราโมทรับบทเป็นพี่เขยเมล กิ๊บสันที่หาอาวุธสงครามเก่าแก่มาขายให้กิ๊บสัน  มีคุณชนาภา นุตาคมให้เห็นแว่บๆไม่มีบทพูดมานั่งเป็นเพื่อนเมล กิ๊บสันดื่มเบียร์แค่นั้น  คุณวสันต์ อุตมะโยธินกับคุณมีศักดิ์ นาครัตน์มารับบทนักร้องคู่ดูโอ้...คือดูแล้วต้องร้องโอ้...ทำไปได้

สินจัย หงษ์ไทยรับบทสาวลาวภรรยาเมล กิ๊บสัน

ญาณี ตราโมท รับบทพ่อค้าอาวุธสงครามมือสอง

ชนานา นุตาคมนั่งดูเมล กิ๊บสันดื่มเบี่ยร์

คุณวสันต์ อุตมะโยธิน กับ คุณมีศักดิ์ นาครัตน์นักร้องคู่ดูโอ้ 

                       ได้ดูฉากที่เมล ตัดสินใจที่จะต้องระเบิดอาวุธสงครามของเขาที่กำลังจะขนไปขายทิ้งทั้งหมดเคลียร์เครื่องบินให้ว่างเพื่อรับชาวบ้านอพยพหนีตายจากการบุกโจมตีไล่ที่ของพวกทหารเลวของลาว ฉากนี้พระเอกต้องเลือกเอาระหว่างเงินกับชีวิตคนนับร้อยคน  ดูแล้วทำให้นึกถึงฉากที่ทหารพม่าบุกโจมตีชนกลุ่มน้อยจนต้องลอยคอหนีตายข้ามแม่น้ำสาละวินมาฝั่งไทยในภาพยนตร์เรื่องสาละวินของมจ.ชาตรีเฉลิม ยุคล ซึ่งทหารไทยเองก็ต้องเลือกระหว่างปกป้องการรุกล้ำดินแดนหรือเลือกเอามนุษยธรรมเหมือนกัน แต่ภาพยนตร์เรื่องสาละวินดูแล้วซึ้งโดนใจกว่าเยอะ
                     เรื่องนี้เมล กิ๊บสันจะต้องพูดภาษาลาวได้ด้วย   ทางทีมงานไทยก็ไปหาคนมาสอนให้แต่ข่าวว่าไอ้คนที่มาสอนภาษาลาวให้เมล กิ๊บสันนั้นดันขโมยเสื้อแจ๊กเก็ตเมล กิ๊บสันแล้วหนีหายไป  ทางทีมงานเลยให้เมล กิ๊บสันพูดไทยแทนเพราะมีคนสอนเยอะซึ่งเมล กิ๊บสันจะต้องโชว์การพูดไทยในการเอาตัวรอดจากการถูกชาวบ้านจับไปยืนตากฝนเอาปืนจ่อหัวอยู่...


                     “ปูนน้านฟาหร่างเสดขาวทามว้ายช้ายนายทาเลซาย แลช้ายด้ายดี้โด้ย” พูดได้แล้วก็ยิ้มหวาน.. เวลากิ๊บสันพูดกรุณาอ่านแบบยานคางจะได้รู้สึกสมจริงขึ้น
                     “หุบปาก! อยากตายรึไง”  ไอ้คนที่ถือปืนตวาดลั่น แต่เมล ยังพยายามจะพูดต่อ
                      “ฉานหว่า นายโต้งช้ายมูมั๊กโกว่วโสงโตวแน่ๆเพื่อแหลกกาบปูนก่าวๆ” ไอ้คนถือปืนทำท่าคิด เพื่อนอีกคนบอกว่า “วัวพี่” ไอ้คนถือปืนหันไปตะคอกเพื่อน  “เออ กูรู้แล้ว”  แต่เมลฟังดูแล้วทำหน้าเหรอหรา
                     “ช้ายงัวโด้ยเหรอ!  นายโต้งโง้มั๊กๆแน้เลย ช้ายงัวแหลกกาบปูนเฮงโซยพานน้าน ฮ่า ฮะ ฮะ”
                    กริ๊ก! ไอ้คนถือปืนลั่นไกรทันที แต่โชคดีที่กระสุนด้าน เมล กิ๊บสันกลืนน้ำลายอย่างอยากลำบาก
                     “ทานายโต้งกานปูนดีๆลาโก้ ปายหาพีเขยโผมทีมูบานทางโน้นจาดีโกว่ว....”ตอนต้นๆก็พูดพอฟังชัดได้ใจความแต่พอเจอประโยคยาวๆเข้าเมล กิ๊บสันก็ไปไม่เป็น ดำน้ำไปน้ำขุ่นๆโผล่หัวมามีแต่ขี้โคลนเต็มหัวไปหมด

                        ภาพยนตร์ไม่ได้สรุปว่าชาวบ้านคนนั้นไปซื้อปืนกับพี่เขยของเมล กิ๊บสันแล้วจะได้ปูนหรือได้ปืนกลับบ้านกันแน่ ... เลิกอ่านแบบยานคางได้แล้วล่ะครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น