ล่องถิ่นเลือด / City of Ghosts (2002)
บทภาพยนตร์...Barry Gifford&Matt Dillon /ดนตรีประกอบ...Tyler Bates /ถ่ายภาพ...Jim Denault /ลำดับภาพ...Howard E. Smith /กำกับศิลป์...ไชยัณห์ จันสุทธิวัฒน์ /ผู้อำนวยการสร้าง...Micheal Cerenzie&Depak Nayar /ผู้กำกับภาพยนตร์...Matt Dillon
ดารานำแสดง...Matt Dillon-James Cann-Natascha Mcelhone-Gerard Depardieu-Stellan Skarsqard-เซเรยุทธ เข็ม-อภิชาติ ชูสกุล-ชาร์ลี
สังขะเวส-ฤทธิ์เดช ลาดพันนา-เกี๊ยวซ่า-กวี สิริกานรัตน์-สายเชีย วงศ์วิโรจน์
ที่อเมริกา
พายุถล่มบ้านเรือนพินาศชาวบ้านมากมายต่างมาขอค่าชดเชยจากบริษัทประกัน จนจิมมี่(Matt Dillon)
ผู้ขายประกันที่ต้องรับผิดชอบต้องแอบหลบหนีออกนอกประเทศไปกัมพูชาเพื่อตามหามาร์วิน(James Cann)
เจ้าของบริษัทให้กลับไปจัดการเรื่องประกันทั้งหมด
จิมมี่เข้าพักที่โรงแรมของเอมิลี่(Gerard Depardieu)ที่เดียวกับสาวสวยโซฟีย์(Natacha Mcelhone)นักวัฒนธรรมโบราณที่เจอปุ๊บก็ชอบปั๊บเลย มาร์วินให้เงินก้อนโตกับจิมมี่เพื่อให้กลับบ้านไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ส่วนตัวเขากำลังคิดตั้งบ่อนคาสิโนใหญ่ในกัมพูชากับหุ้นส่วนใหม่คือสีหเดช(ชาร์ลี
สังขะเวส)และมิงชู(อภิชาติ ชูสกุล)ท่ามกลางศัตรูคือพวกมาเฟียจากรัสเซียที่ไม่พอใจ
และเมื่อเพื่อนสนิทของมาร์วินอย่างแคสเปอร์(Stellan Skarsqard)หักหลังเข้าข้างศัตรูลอบฆ่ามิงชูตาย
คนอย่างสีหเดชก็เริ่มไม่ไว้ใจมาร์วินจึงหาทางหลอกมาวินไปฆ่าทิ้งแต่จิมมี่ก็ตามไปช่วยจึงได้ทราบว่าแท้ที่จริงแล้วมาร์วินคือพ่อของเขานั่นเอง
Matt Dillon-James Cann-Natacha
Mcelhone-Gerad Depardieu
Stellan Skarsqard
Matt Dillon เป็นพระเอกที่มีคุณภาพคนหนึ่งของฮอลีวู๊ดแต่ด้วยบทภาพยนตร์ที่เขารับแสดงมันไม่ส่ง
ชื่อเสียงก็ค่อยๆหายเงียบไปพร้อมกับมีภาพเสพสมบ่มิสมกับคาเมรอน ดิแอซกลางทะเลปลิวว่อนในเน็ตชื่อเสียงเลยเสีย
go so big ไปกันใหญ่
แต่เขาก็พยายามแก้ตัวด้วยการสร้างและกำกับภาพยนตร์ที่มีคุณภาพออกมาให้แฟนๆได้ชมกันซึ่งบอกตรงๆว่าเป็นภาพยนตร์ที่ดี
ไม่ผิดหวัง
โลเกชั่น-ประเทศไทย
ทีมงานสร้างเลือกบริษัทลิฟวิ่งฟีล์มโดยคุณปัญญาวดี
นวรัตน์ ณ อยุธยา ได้ร่วมงานสร้าง มีทั้งถ่ายทำในกรุงเทพฯและสถานที่จริงๆในกัมพูชา
โดยเฉพาะฉากต้นๆเรื่องพระเอกดิลลอนจะมาแวะพักที่กรุงเทพฯก่อนก็มีถ่ายที่ถนนข้าวสาร
มีรถตุ๊กๆเข้าฉากอีกแล้ว ฉากที่เอฟบีไอ.สอบสวนพระเอกก็เช่าตึกเก่าๆมาดัดแปลงเป็นออฟฟิศเอฟบีไอ.
พระเอกดื่มเบียร์...
ฉากโรงแรมที่พักของพระเอกในกัมพูชานั้นทีมงานสร้างของไทยพาเข้าไปถ่ายทำในสถานที่จริงแบบเสียวๆ
เพื่อความตื่นเต้นในการทำงานแต่ก็เรียบร้อยดี
มีดาราเขมรมาร่วมแสดงสมทบมากมายโดยเฉพาะบทคนถีบสามล้อที่ไปไหนมาไหนกับพระเอกตลอดซึ่งแสดงโดยเซเรยุทธ
เข็ม เขาแสดงเก่งมากทีเดียว ส่วนดาราไทยมีคุณอภิชาติ ชูสกุลรับบทมิงชู คุณชาร์ลี
สังขะเวสรับบทเป็นสีหเดช คุณฤทธิ์เดช ลาดพันนารับบทสมุนของแคสเปอร์ คุณกวี
สิริกานรัตน์กับคุฯสายเชีย วงศ์วิโรจน์รับบทพนักงานบ่อนคาสิโน
มีดาราสาวเซ็กซี่ชื่อเกี๊ยวซ่ารับบทเป็นผู้หญิงของแคสเปอร์
คุณอภิชาติ ชูสกุล-ร่วมแสดงสมทบ
คุณชาลี สังขะเวส-ร่วมแสดงสมทบ
คุณฤทธิ์เดช ลาดพันนา-ร่วมแสดงสมทบ
(ซ้าย)คุณสายเชีย วงศ์วิโรจน์ / (ขวา)คุณกวี
สิริกานรัตน์-ร่วมแสดงสมทบ
คุณเกี๊ยวซ่า-ร่วมแสดงสมทบ
ภาพยนตร์มีเพลงประกอบเป็นเพลงของกัมพูชาทั้งเรื่อง
ดูแล้วอิจฉาตาร้อนผ่าว กัมพูชายังคงรักษาวัฒนธรรมของเขาไว้อย่างดีเยี่ยม
ไม่เหมือนเพื่อนบ้านที่อยู่ด้านหน้าเขาพระวิหารที่บ้าคลั่ง หลงไหลในวัฒนธรรมของต่างประเทศกันจนไม่ลืมหู้ลืมตาลืมยายลืมบ้านเลขที่
น่าอายมาก
เสียงเพลงนั้นมีมนต์ขลัง มีท่วงทำนองเป็นมนต์สะกดใจ ประสาอะไรกับเด็กแบเบาะร้องงอแงยังไม่รู้ความหมายของภาษา...เจอแม่ร้องเพลงกล่อมเข้าไปชั่วประเดี๋ยวเดียวจะนิ่งเงียบและหลับสนิท ฉันไดก็ฉันนั้น
ถ้านักร้องเปรียบเป็นนักรบ...เพลงก็คืออาวุธที่ใช้กำราบคนฟังให้สยบอย่างราบคาบ
คนฟังทุกคนตกเป็นทาส เป็นเชลย ประเทศชาติกลายเป็นเมืองขึ้นเขาโดยปริยาย ไม่มีใครรู้ว่าประเทศไทยตกเป็นเมืองขึ้นเกาหลีไปตั้งแต่เมื่อไหร่(ปีนี้พ.ศ.2556)
ทุกครั้งที่ศิลปินเกาหลีเขามาเปิดคอนเสิร์ตในบ้านเรา...นั่นแหละ เขามาเก็บส่วย!ล่ะ ลูกหลายเอย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น