ผ่าบางกอก / Bangko-Ein Madchen Verschwindet
(1999)
บทภาพยนตร์...Thorsten Nator&Ecki Zicdrich /ดนตรีประกอบ...Nikolaus Gloewa&Siggi Muller /ถ่ายภาพ...Hanning Zick /ลำดับภาพ...Julia
von Frihhing /ออกแบบงานสร้าง...Christian Bussmann
/ผู้อำนวยการสร้าง...Brigit Brandes /ผู้กำกับภาพยนตร์...Thoesten Nater
ดารานำแสดง...Ulrich Noethen-Betting Kupfer-Nadine
Fano-Phillip Tan-Thomas Thieme
สเวน(Ulrich Noethen) ชาวเยอรมันได้รับรางวัลทัวร์ออสเตรเลียพร้อมครอบครัวฟรี! เขาจึงพาเจน(Betting Kupfer)
ภรรยากับลูกสาวเมลานี่ย์(Nadine Fano) เดินทางไปเที่ยวออสเตรเลียด้วยสายการบินสายหนึ่งซึ่งจะต้องมาแวะเปลี่ยนเครื่องที่กรุงเทพฯ
ทางสายการบินแจ้งพวกเขาว่าเกิดขัดข้องต้องให้ผู้โดยสารรออีกหนึ่งวันโดยทางสายการบินจัดหาโรงแรมชั้นหนึ่งระดับห้าดาวให้พัก
สามพ่อแม่ลูกจึงออกไปเยี่ยมชมกรุงเทพฯกันเพลิดเพลินจนเกิดเหตุเมลานี่ย์ถูกลักพาตัวหายไป
สเวนกับเจนไปแจ้งความก็ต้องรอ 24 ชั่วโมง ไปสถานทูตเยอรมันขอความช่วยเหลือก็ไม่มีเจ้าหน้าที่คนไหนสนใจรับฟัง
โลห์แมน(Thomas Thieme)ผู้โดยสารร่วมเดินทางแนะนำนักสืบดุ๊กซ์(Axel
Miberg)มาช่วยสืบแต่ก็ล้มเหลว สเวนจึงออกสืบเองแล้วก็ถูกจับตัวหายไปอีกคน เหลือเจนคนเดียวกับความเคว้งคว้างของชีวิตและแล้วจอห์นวู(Phillip
Tan)ตำรวจไทยก็แสดงตัวออกมาช่วยเจนตามล่าพวกวายร้าย
และเปิดเผยเบื้องหน้าเบื้องหลังของเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด
ภาพยนตร์จากเยอรมันที่สร้างเพื่อฉายชมทางทีวี
ออกแนวสืบสวนสอบสวนผสมตื่นเต้นผจญภัยระทึกขวัญ เป็นเรื่องราวของคนสามคนพ่อแม่และลูกสาวที่ต้องมาผจญภัยถูกคนร้ายลักพาตัวในกรุงเทพฯเพราะผู้เป็นพ่อไปทำไม่ดีกับพวกวายร้ายเอาไว้
ภาพยนตร์มี Ulrich Noethen กับ Betting Kupfer นำแสดง
และ Phillip Tan
กรุงเทพฯ การค้ายาเสพติด ยังคงมีอยู่ในภาพยนตร์ต่างชาติไม่จางหายไป ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ที่สร้างฉายในโรงใหญ่หรือสร้างฉายให้ชมทางทีวีก็มองเราเป็นอย่างนี้ตลอดมา ภาพยนตร์เรื่องนี้ชื่อเรื่องก็บ่งบอกอยู่แล้วว่าเรื่องมันเกิดที่บางกอก ทีมงานจึงยกกองถ่ายทำมาถ่ายทำที่บางกอกตลอดทั้งเรื่อง เริ่มตั้งแต่ท่าอากาศยานกรุงเทพฯ โรงแรมหรูห้าดาวริมแม่น้ำเจ้าพระยา เรือหางยาวในลำคลอง วัดอรุณฯ วัดโพธิ์ เยาวราช หน้าเวิร์ลด์เทรดเซ็นเตอร์ ซอยคาวบอย และท่าลงเรือคลองแสนแสบย่านประตูน้ำ
ท่าอากาศยานกรุงเทพฯ-แม่น้ำเจ้าพระยา-เรือหางยาว-หน้าเวิร์ลด์เทรดเซ็นเตอร์
วัดอรุณฯ-วัดโพธิ์-ย่านเยาวราช-รถตุ๊กๆกับซอยคาวบอย
อีกโลเกชั่นหนึ่งที่ใช้ในการถ่ายทำคืออุทธยานประวัติศาสตร์กรุงศรีอยุธยา
เป็นฉากจบของเรื่องราวทั้งหมด
เป็นฉากที่เจนผู้เป็นภรรยาวางแผนกับตำรวจเพื่อซ้อนแผนจับคนร้ายที่ลักพาตัวลูกสาวและสามีไป
โลเกชั่น-อุทธยานประวัติศาสตร์กรุงศรีอยุธยาประเทศไทย
มีดาราไทยร่วมแสดงสมทบสามสี่คน
คือคุณแรม วรธรรมรับบทเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจไทย คุณชลมารค ธ
เชียงทองรับบทเป็นเลขาของท่านฑูตเยอรมัน คุณอรัชพร สาเทสรับบทชาวบ้านที่ถูกรถนางเอกชน
และอีกท่านหนึ่งเป็นสตั้นแมนเบอร์หนึ่งของคุณพันนา ฤทธิไกรในสมัยจา
พนมยังไม่ดังคือคุณบรรลุ ศรีแสง ตัวเล็กๆแต่ต่อสู้เก่งมากมารับบทเป็นสมุนผู้ร้าย เห็นหน้าดาราไทยร่วมแสดงแล้วไม่ว่าจะรับบทอะไรก็รู้สึกภูมิใจด้วยทุกครั้ง
ในส่วนทีมงานสร้างฝ่ายไทยนั้นไม่มีเครดิตรให้ทราบว่าเป็นใครที่ไหนบ้าง
เลยบอกไม่ได้
คุณ ชลมารค ธ เชียงทอง / คุณแรม วรธรรม-ร่วมแสดงสมทบ
(ซ้าย)คุณอรัชพร
สาเทส / (ขวา)คุณบรรลุ ศรีแสง-ร่วมแสดงสมทบ
ฉากที่อุทธยานประวัติศาสตร์กรุงศรีอยุธยาได้ดูแล้วเห็นถึงความพยายามของชาวยุโรปที่จะเข้าใจในในศาสนาพุทธและพยายามเข้าใจในวัฒนธรรมไทย
แต่ก็ยังไม่มีใครอธิบายให้พวกเขารู้จริงสักทีจึงทำให้เจตนาดีๆของพวกเขามองดูกลายเป็นความโง่เขลาเบาปัญญาในสายตาของพวกเราไป
ฉากนี้เป็นฉากที่ผู้ร้ายที่จับตัวสองพ่อลูกมาไว้ในเขตบริเวณวัดซึ่งตัวผู้ร้ายสัญชาติไทยแท้ทั้งหลายต่างปลดปืนตัวเองไว้นอกเขตวัดไม่นำเข้าไปด้วยเพราะเป็นบาปผิดหลักศาสนา
น่าน...ลืมไปว่าตัวเองเป็นโจรต้องมีเขี้ยวเล็บเพราะอีกไม่กี่นาทีจะต้องสู้กับตำรวจแล้ว
เกิดมีสำนึกชั่วดีขึ้นมาซะงั้น
ยังดีนะครับ ที่ตอนผู้ร้ายกับตำรวจมาเผชิญหน้ากัน ก่อนจะยิงกันไม่ยกมือไหว้ สวัสดีครับ! กันก่อน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น